Contents
- 1 ประกันรถเปิด-ปิดได้ มีอยู่จริงหรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ
- 2 ประกันรถเปิดปิด : ทำความรู้จักประกันรถเปิดปิด
- 3 ประกันรถเปิดปิด : ประกันรถเปิดปิดเหมาะกับใคร
- 4 ประกันรถเปิดปิด : ข้อดีและข้อเสียของประกันรถเปิดปิด
- 5 1ข้อดี
- 6 2ข้อเสีย
- 7 แนะนำ ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : ประกันรถเปิดปิด จาก ประกันภัยไทยวิวัฒน์
- 8 1ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up เติมชั่วโมง
- 9 2ประกันรถเปิดปิด แบบรายเดือน
- 10 แนะนำ 2 ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : ประกันรถเปิดปิด Top-up จาก TQM
- 11 แนะนำ 2 ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : บทส่งท้าย
ประกันรถเปิด-ปิดได้ มีอยู่จริงหรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ
ประกันรถเปิดปิด........ประกันรถแนวใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงของลูกค้า ที่เรียกได้ว่าปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ชีวิต ถูกใจเจ้าของรถยนต์ยุคใหม่นักเชียว แต่จะมีกี่คนที่รู้จักประกันรถเปิดปิดบ้าง? เชื่อว่าต้องมีหลายท่านยังไม่รู้แน่ๆแต่ในบทความนี้นำคำตอบทุกอย่างมาไขข้อข้องให้ท่านแล้ว อยากรู้ว่ามีจุดเด่นอะไร น่าซื้อตรงไหน ไปติดตามกันเลยค่ะ
ประกันรถเปิดปิด : ทำความรู้จักประกันรถเปิดปิด
หลายท่านคงอาจจะยังไม่เคยรู้จักกับประกันรถเปิดปิด ในบทความนี้จะขออธิบายเพื่อพาท่านไปทำความรู้จักกับประกันประเภทเปิดปิดค่ะ โดยประกันประเภทนี้เป็นประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ที่ท่านเจ้าของรถสามารถเปิดและปิดได้เมื่อต้องการใช้ความคุ้มครองประกันภัยค่ะ ซึ่งประกันรถแบบเปิดปิดมีชื่อเรียกดังนี้ ประกันรถยนต์แบบเติมเงิน ,ประกันรถยนต์เปิดปิด,ประกันรถยนต์ตามไมล์ ,ประกันรถยนต์แบบชั่วคราว ,ประกันรถยนต์รายวัน หรือ ประกันรถยนต์ระยะสั้นนั่นเองค่ะ
ประกันรถเปิดปิด : ประกันรถเปิดปิดเหมาะกับใคร
- ประกันรถเปิดปิด : เหมาะกับคนที่ใช้รถน้อย ไม่ค่อยขับรถ
เนื่องจากเบี้ยประกันคิดตามการเปิดใช้ความคุ้มครองตามจำนวนเวลาที่ใช้งานจริง ดังนั้นหากเป็นผู้ไม่ค่อยได้ใช้รถ รถจอดบ่อย การใช้ประกันภัยประเภทนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้มากขึ้นค่ะ
ประกันรถเปิดปิด : ข้อดีและข้อเสียของประกันรถเปิดปิด
1ข้อดี
- ประกันรถเปิดปิด : บริษัทประกันภัยรถยนต์สามารถหาตำแหน่งรถได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากว่าภายในรถของได้ติดตั้งระบบ GPS
- ประกันรถเปิดปิด : ค่าเบี้ยประกันที่ถูก คิดเงินตามจริงตามที่คุณได้ใช้
- ประกันรถเปิดปิด : ใช้งานได้สะดวกสบาย ผ่านแอพลิเคชั่น
- ประกันรถเปิดปิด : สามารถเช็คระยะเวลาในการคุ้มครองที่ยังสามารถใช้ได้อยู่ตลอดเวลา
- ประกันรถเปิดปิด : ต่อประกันง่ายและสะดวก สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นได้
2ข้อเสีย
- ประกันรถเปิดปิด : การคุ้มครองนั้นจะเกิดขึ้นได้เมื่อเปิดใช้งานเท่านั้น หากคุณขับรถไปแล้วไม่ได้เปิดใช้งานความคุ้มครอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆได้
- ประกันรถเปิดปิด : มีตัวเลือกบริษัทประกันไม่มากเพราะ การบริการประกันภัยรถยนต์แบบเปิดปิดยังไม่แพร่หลายมาก
แนะนำ ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : ประกันรถเปิดปิด จาก ประกันภัยไทยวิวัฒน์
1ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up เติมชั่วโมง
- ประกันรถเปิดปิด : ความคุ้มครองเริ่มต้น 50 ชั่วโมง
- ประกันรถเปิดปิด : เวลาการใช้ยาวนานถึง 365 วัน
- ประกันรถเปิดปิด : สามารถเพิ่มชั่วโมงได้เอง ครั้งละ 50 ชั่วโมง
- ประกันรถเปิดปิด : ราคาถูก เริ่มต้นเพียงครั้งละ 300 บาท
- ประกันรถเปิดปิด : เหมาะสำหรับผู้ที่มีจำนวนชั่วโมงใช้งานรถไม่สม่ำเสมอ
2ประกันรถเปิดปิด แบบรายเดือน
- ประกันรถเปิดปิด : เหมาจ่ายตามจำนวนวันคุ้มครองและจำนวนชั่วโมงใช้งานที่ต้องการ
- ประกันรถเปิดปิด : มีให้บริการทั้งระยะสั้นและระยะยาว
- ประกันรถเปิดปิด : มีให้บริการ 1 เดือน / 3 เดือน / 4 เดือน / 6 เดือน / 12 เดือน
- ประกันรถเปิดปิด : เหมาะสำหรับผู้ที่มีจำนวนชั่วโมงการใช้งานรถไม่สม่ำเสมอ
- ประกันรถเปิดปิด : เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 650 บาท
แนะนำ 2 ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : ประกันรถเปิดปิด Top-up จาก TQM
- ประกันรถเปิดปิด : จ่ายเมื่อขับ ไม่ขับไม่ต้องจ่าย
- ประกันรถเปิดปิด : ชั่วโมงความคุ้มครองเริ่มต้นที่ 40 ชั่วโมง และ 70 ชั่วโมง
- ประกันรถเปิดปิด : ใช้งานได้นานสูงสุด 1 ปี
- ประกันรถเปิดปิด : มีให้เลือกทั้งประกันชั้น 1 ชั้น 2+ และ 3+
- ประกันรถเปิดปิด : ประหยัดค่าเบี้ยประกัน
- ประกันรถเปิดปิด : สามารถเพิ่มชั่วโมงได้เอง
- ประกันรถเปิดปิด :ใช้รถน้อย จ่ายเบี้ยประกันน้อย
แนะนำ 2 ประกันรถเปิดปิดที่น่าซื้อ : บทส่งท้าย
หลังจากอ่านบทความนี้ได้รู้จักประกันรถเปิดปิดมากขึ้นหรือเปล่าคะ? ถือเป็นประกันแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคลเป็นอย่างมากเลย ไม่เพียงแค่นั้นเรายังแนะนำ 2 ประกันรถเปิดปิดที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงินซื้อประกันรถยนต์สักฉบับ อย่าลืมที่จะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละประกันก่อนนะคะ ไม่ใช่ว่าเน้นแค่ถูกใจแล้วซื้อเลยนะคะ!