Contents
- 1 Kyc ระดับ 2 และ Kyc ระดับ 3 คืออะไร!? มีความสำคัญอย่างไรบ้าง!?
- 2 KYC คืออะไร!?
- 3 ใครบ้างที่จำเป็นจะต้องทำ KYC
- 4 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ย้ำกันอีกครั้งกับความหมายของ KYC
- 5 ข้อกำหนดของ KYC ตามกฎหมายที่ธนาคารพาณิชย์ต้องปฎิบัติตาม
- 6 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : เช็คกันนิดกับระดับความเสี่ยงของลูกค้า
- 7 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้าที่ ‘ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ’
- 8 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้า KYC ระดับ 2
- 9 1ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- 10 2ลูกค้านิติบุคคล
- 11 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้า KYC ระดับ 3
- 12 1ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- 13 2ลูกค้านิติบุคคล
- 14 โดยสรุปใครบ้างที่เข้าข่าย KYC ระดับ 3!?
- 15 KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : บทส่งท้าย
Kyc ระดับ 2 และ Kyc ระดับ 3 คืออะไร!? มีความสำคัญอย่างไรบ้าง!?
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3.......
ท่านผู้อ่านอาจจะอึ้งกันอยู่บ้างที่ความซับซ้อนของระบบ KYC มีมากมายเหลือเกิน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าหากอ่านบทความนี้จบปุ๊บ จะร้องอ๋อ แถมส่ายหัวทันทีว่ามันไม่มีอะไรชวนงงเลย กลับกันยังเป็นระเบียบแบบแผนทำให้อุ่นใจกว่าเดิมที่ข้อมูลส่วนตัวของเราซึ่งทำ kyc กับสถาบันการเงินไปมีระบบขนาดนี้
KYC คืออะไร!?
KYC หรือ Know Your Customer คือ กระบวนการรู้จักลูกค้า ที่สามารถทำการระบุตัวตนและพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามกระบวนการ KYC นี้ ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะการเปิดบัญชีธนาคารหรือทำธุรกรรมการเงินส่วนใหญ่แล้วก็ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและตรวจสอบลูกค้าเป็นเรื่องปกติ เพื่อป้องกันการโจรกรรมขึ้นนั่นเอง
ใครบ้างที่จำเป็นจะต้องทำ KYC
โดยพื้นฐานแล้ว ทางสถาบันการเงินและธนาคารจำเป็นที่จ้องมีการทำ KYC ก่อนการให้บริการกับทางลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น e-Payment หรือบรอการที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทรัพย์สินดิจิทัล แต่ในปัจจบันเองก็เริ่มมีหลายธุรกินที่ทำ KYC ด้วอย่างเช่น ธุรกิจด้านคมนาคม หรือประกันภัย เป็นต้น
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ย้ำกันอีกครั้งกับความหมายของ KYC
KYC ย่อมาจาก Know your customer หรือบางที่อาจจะให้ชื่อเต็มเป็น Know your client ถึงตัวซีจะแตกต่างกันแต่ความหมายเหมือนกัน ถามว่าเหมือนกันอย่างไร? ก็เหมือนกันตรงที่สถาบันการเงินต้องทำความรู้จักกับลูกค้าของตน ด้วยการแสดงตนด้วยหลักฐาน รวมถึงตอบคำถามต่างๆตามมาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยมีโต้โผใหญ่เป็นปปง.ค่ะ
ข้อกำหนดของ KYC ตามกฎหมายที่ธนาคารพาณิชย์ต้องปฎิบัติตาม
ในปัจจุบันทางธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดในการทำ KYC เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฏหมาย โดยมีรายละเอียดคือ การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ตัวตนและข้อมูลที่ทางลูกค้าแสดงกับทางธนาคาร พร้อมกับประเมินใน 3 เรื่องดังต่อไปนี้
- ทำการประเมินและจัดความเสี่ยงในการฟอกเงิน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งจะขออธิบายลงรายละเอียดในหัวข้อถัดไป
- ทำการทบทวนข้อมูลการรู้จักกับลูกค้าและปรับปรุงระดับของความเสี่ยงในการฟอกเงินของลูกค้า ให้มีการอปเดทเป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา
- ทำการตรวจสอบ Sanction List ของลูกค้าว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำความผิดฐานฟอกเงิน หรือกระทำความผิดในการส่งเงินทุนสนันสนุนให้กับการก่อการร้าย
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : เช็คกันนิดกับระดับความเสี่ยงของลูกค้า
โดย kyc ได้แบ่งระดับความเสี่ยงของลูกค้าไว้ 3 ประเภท ตามเกณฑ์ดังนี้
- ลูกค้าระดับ 1 หมายถึง ลูกค้าท่ีมีความเสี่ยงต่ำ (Low Risk)
- ลูกค้าระดับ 2 หมายถงึ ลูกค้าที่มีความเสี่ยงปานกลาง (Medium Risk)
- ลูกค้าระดับ 3 หมายถึง ลูกค้าที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ(HighRisk)
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้าที่ ‘ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ’
ลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าอยู่ในประเภทลูกค้าที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นผู้รับผลประโยชน์หรือมีผู้รับผลประโยชน์สุดท้ายอยู่ใน 3 กลุ่ม ดังนี้
- ได้รับการแจ้งว่าอยู่ในรายชื่อผู้มีความเสี่ยงสูงซึ่งท่านสามารถตรวจสอบตนเองผ่านระบบ AMLO Person Screening System หรือระบบ APS
- เป็นบุคคลที่มีสถานภาะทางการเมือง
- ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ดังนี้ ค้าอัญมณี, ค้าของเก่า, ค้าอาวุธ, รับแลกเปลี่ยนเงิน, รับโอนเงินข้ามประเทศและภายในประเทศแบบที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน, ทำธุรกิจคาสิโน, นายหน้าจัดหางาน, ธุรกิจทัวร์, ธุรกิจสถานบริการ, รับแลกเปลี่ยนเงิน
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้า KYC ระดับ 2
ลูกค้า KYC ระดับ 2 หมายถึง ลูกค้าที่มีความเสี่ยงปานกลาง (Medium Risk) โดยจัดกลุ่มตามประเภทและการทำ kyc และ cdd ดังนี้
1ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- ต้องเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ
- ต้องเป็นลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในระดับความเสี่ยง 1 และ 3
- ในการทำ kyc และ cddตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับ 1
- ต้องทราบแหล่งที่มาของเงินในบัญชี
- ต้องระบุจำนวนรายการที่เดินและยอดเงินเฉลี่ย
2ลูกค้านิติบุคคล
- ต้องเป็นลูกค้านิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่เป็นเงินสดค่ะ
- หากเป็นหน่วยงานการกุศลระหว่างประเทศและ NPO ต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อสร้างความเจริญให้กับประเทศด้อยพัฒนาจัดตั้งมาแล้วต่ำกว่า 10 ปี และมีรายได้ต่ำกว่า 800 ล้านบาท
- สถาบันการเงินที่ไม่ได้อยู่ในประเทศสมาชิกของ FATF และไม่อยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินสูง (High Risk Country) ตามภาคผนวก ข
- สาขาหรือบริษัทในเครือของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่สมาชิกของ FATF และสำนักงานใหญ่ไม่อยู่ในประเทศสมาชิกของ FATF
- § บริษัทอื่นทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ใน ระดับ 1 หรือ 3
- kyc และ cdd ตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับ 1
- ต้องทราบแหล่งที่มาของเงินในบัญชี
- ต้องทราบความสัมพันธ์ของผู้มีอำนาจในบัญชีกับเจ้าของบัญชีหรือเจ้าของธุรกิจ
- ต้องระบุจำนวนรายการที่เดินและยอดเงินเฉลี่ย
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : ลูกค้า KYC ระดับ 3
ลูกค้า KYC ระดับ 3 หมายถึง ลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง (High Risk) โดยจัดกลุ่มตามประเภทและการทำ kyc และ cdd ดังนี้
1ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- ท่านจะมีความเสี่ยงสูงก็ต่อเมื่อ ท่านลูกค้าที่มีสถานะหรือเกี่ยวข้องกับนักการเมือง
- ลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่หรือแหล่งเงินมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง (NCCT/Tax Havens)
- ต้องลูกค้าที่มีอาชีพในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
- ลูกค้าที่รายงานเป็นรายการธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยต่อปปง.
- ลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะให้ข้อมูลและหลักฐานการแสดงตน
- การตรวจสอบทำได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับ ลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับ 2
- ต้องให้สถาบันการเงินทราบถึงแหล่งที่มาของเงินและทรัพย์สิน
- ต้องให้ธนาคารทราบแหล่งที่มาของธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงหรือผิดปกติ
2ลูกค้านิติบุคคล
- นิติบุคคลกับบุคคลธรรมดาในข้อนี้ไม่ต่างกันค่ะ นั่นคือ ลูกค้าที่เป็นนักการเมืองหรือมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง
- บริษัทที่ดำเนินการหรืออาศัยอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินสูง (NCCT/ Tax Havens)
- สถาบันการเงินที่อยู่ในประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก FATF และไม่มีมาตรการในการป้องกันการฟอกเงิน
- สาขาหรือบริษัทในเครือของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่สมาชิกของ FATF แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการฟอกเงินสูง
- ลูกค้าที่มีอาชีพในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
- ลูกค้าที่รายงานเป็นรายการธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
- ลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับ 2 และไม่สามารถติดต่อได้ตามที่อยู่ที่ได้ให้ไว้กับธนาคาร
- เป็นลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะให้ข้อมูลและหลักฐานการแสดงตนกับธนาคาร
- ต้องถูกตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงระดับ 2
- ต้องทราบโครงสร้างและความสัมพันธ์ของธุรกิจลูกค้า
โดยสรุปใครบ้างที่เข้าข่าย KYC ระดับ 3!?
สำหรับลูกค้า KYC ระดับ 3 หรือกลถุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ทางธฯาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดเอาไว้ โดยอ้างอิงจากข้อกฏหมาย โดยแบ่งประเภทที่จำเป็นจะต้องได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา | ลูกค้านิติบุคคล |
|
|
**หมายเหตุ : กลุ่มอาชีพที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง KYC ระดับ 3
- เจ้าของสำนักงานกฎหมาย
- ธุรกิจค้าขายอัญมณี, ค้าของเก่า, ค้าทอง
- ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
- ธุรกิจโอนเงินออกนอกประเทศ
- ธุรกิจคาสิโน และ การพนัน
- โรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์
- นายหน้าค้าอาวุธยุทโธปกรณ์
- หน่วยงานหรือบุคคลที่ดำเนินธุรกิจเงินกู้นอกระบบ
KYC ระดับ 2 KYC ระดับ 3 : บทส่งท้าย
การแบ่งเกณฑ์ที่ต้องถูกสอดส่องพฤติกรรมทางการเงินอย่างใกล้ชิดเป็นไปตามระเบียบแบบแผนที่ท่านผู้อ่านคงจะสามารถขึ้นได้ขึ้นมาหนึ่งระดับว่าจะไม่ถูกตรวจสอบโดยใช่เหตุ หากว่าท่านไม่ได้ทำอะไรเข้าข่ายดังที่กล่าวมาด้านบน ที่สำคัญหากมีใครมาแอบอ้างบัญชีท่านก็จะทำโดยสะดวกไม่ได้เลยเพราะ มีขั้นตอนเหล่านี้ช่วยกรองอยู่ค่ะ