Contents
- 1 รู้หรือเปล่า!? ทำประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีประจำปี 2563 ได้!!!
- 2 การทำประกันชีวิตทำไมถึงได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปี 2563
- 3 ประเภทของเบี้ยประกันที่กรมสรรพากรอนุญาตให้นำมาใช้ลดหย่อนภาษีในปี 2563
- 4 1.เบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเอง
- 5 2.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่ทำให้ตัวเอง
- 6 ประกันชีวิตแบบไหนบ้าง ที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
- 7 1.ประกันชีวิตตลอดชีพ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
- 8 2.ประกันชีวิตแบบบํานาญ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
- 9 3.ประกันชีวิตออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
- 10 4.ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
- 11 บทสรุปส่งท้าย : เลือกประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง!?
รู้หรือเปล่า!? ทำประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีประจำปี 2563 ได้!!!
เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องยื่นแบบฟอร์มภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา... หลายคนอาจต้องกุมขมับ เพราะจำนวนเงินที่ต้องชำระให้กับทางรัฐดูช่างมากมายเหลือเกิน แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดหย่อนภาษีได้อย่างน่าสนใจ แถมยังได้รับการคุ้มครองในเรื่องของชีวิตได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือการทำ “ประกันชีวิต” นั่นเอง ส่วนประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีในปี 2563 มีอะไรที่ควรทราบกันบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย
การทำประกันชีวิตทำไมถึงได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปี 2563
เหตุผลที่ทำให้ประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีได้นั้น มาจากการที่รัฐบาลพยายามต้องการสร้างความตระหนักให้กับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญในการออมทรัพย์ การักษาสุขภาพ วางแผนชีวิตและเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าในยามเกษียณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรที่สำคัญอย่างมากในการช่วยเหลือประเทศให้มีเศรษฐกิจที่ดี ตามคุณภาพของชีวิตที่ดีมากขึ้น อันเป็นการลดภาระให้กับภาครัฐ ทำให้มีการสนับสนุนให้ประชาชนทำประกันชีวิต จนกระทั่งกลายมาเป็นประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ก่อนปี 2563 มาอย่างยาวนานนั่นเอง
ประเภทของเบี้ยประกันที่กรมสรรพากรอนุญาตให้นำมาใช้ลดหย่อนภาษีในปี 2563
สำหรับเบี้ยประกันภัยที่กรมสรรพากรอนุญาตให้นำมาใช้ในการลดหย่อนภาษี ประจำปี 2563 มีทั้งหมด 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
1.เบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเอง
สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- เบี้ยประกันสุขภาพ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท
- แบบประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป
- หากมีเงินคืนระหว่างสัญญา เงินคืนต้องสะสมไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยสะสม
2.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่ทำให้ตัวเอง
สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี เมื่อเงินก้อนนี้นำไปรวมกับเงินทุนสำรองการเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนและกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- กรณีไม่มีเบี้ยประกันภัย สามารถนำเบี้ยประกันภัยแบบบำนาญไปทำการหักลดหย่อนแทนเบี้ยประกันภัยตามข้อ 1 ก่อนได้ จะช่วยลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 300,000 บาท
- กรณีมีคู่สมรสและทั้งคู่เป็นผู้ชำระเบี้ยสามารถแยกยื่นจ่ายภาษีในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนในส่วนของตัวเองได้สูงสุดคนละ 200,000 บาท
ประกันชีวิตแบบไหนบ้าง ที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
1.ประกันชีวิตตลอดชีพ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
ประกันชีวิตตลอดชีพ คือ ประกันชีวิตประเภทที่เน้นความคุ้มครองในระยะยาว โดยผู้ทำประกันจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยระยะเวลาหนึ่งตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา เช่น 5 ปี 10 ปี 20 ปี เป็นต้น หลังจากนั้น ก็จะได้รับการคุ้มครองชีวิตแบบตลอดชีพ หรือตามที่กำหนดเอาไว้ เช่น 80 ปี 90 ปี และ 99 ปี เป็นต้น
2.ประกันชีวิตแบบบํานาญ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
ประกันชีวิตแบบบํานาญ เหมาะกับคนทั่วไป เช่น พนักงานประจำที่ไม่ได้มีทักษะในการนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยมากนัก ทำให้การทำประกันชีวิตแบบบํานาญที่ช่วยในการออมเงินเอาไว้ส่วนหนึ่งในรูปแบบของการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามการเลือกทำประกันชีวิตแบบบํานาญ ควรมีค่าผลตอบแทน หรือ IRR เกิน 3% ต่อปีเท่านั้น เพราะจะได้รับผลการตอบแทนที่ไม่น้อยหน้ากับกองทุนตราสารหนี้นั่นเอง
3.ประกันชีวิตออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
ประกันชีวิตออมทรัพย์ คือ ประกันชีวิตที่เน้นในการ “ออมเงิน” เมื่อทำการส่งเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ ทางบริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินคืนให้โดยอาจเป็นการจ่ายแบบก้อนเดียวหรือแบบเงินคืนตลอดสัญญา นอกจากนี้ถ้าหากผู้ทำประกันเกิดเสียชีวิตในระหว่างที่ยังส่งเบี้ยกรมธรรม์ ญาติสนิทที่ได้รับการระบุชื่อเอาไว้เป็นผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินก้อนจาก “จำนวนเงินเอาประกัน” ตามที่ระบุเอาไว้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้ทำประกันชีวิตออมทรัพย์ก็จะได้รับการคุ้มครองในระหว่างที่ส่งเบี้ยประกันอีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ประกันออมทรัพย์ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการออมเงินเป็นระยะเวลายาวนานจนเกือบทั้งชีวิต เพราะผู้ที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตออมทรัพย์ สามารถที่จะทำการออมเงินได้ว่ากี่ปี เช่น ออมระยะสั้นเป็นเวลา 5 ปี หรืออมระยะยาวเป็นเวลา 20 ปี เป็นต้น
4.ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ คือความมั่นคงที่สามารถส่งมอบต่อให้กับคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับผู้สูงอายุว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสมอีกด้วย โดยประกันชีวิตผู้สูงอายุบริษัทประกันภัยมักที่จะเปิดให้สามารถทำได้ในช่วงอายุประมาณ 50-70 ปี เป็นวัยที่กำลังเข้าสู่ช่วงสูงอายุ ที่จำเป็นจะได้รับการคุ้มครองหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ นอกจากจะซื้อประกันชีวิตประเภทนี้เพื่อนำมาใช้ช่วยลดหย่อนภาษีแล้ว ยังสามารถซื้อให้กับบิดา มารดา เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้อีกทางด้วยเช่นกัน
บทสรุปส่งท้าย : เลือกประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง!?
ประกันชีวิตทุกแผนสามารถนำมาใช้เพื่อลดหย่อนภาษีในปี 2563 ได้... อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าควรเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเองให้มากที่สุดตามประเภทที่แนะนำกันไปแล้วในตอนต้น เช่น ประกันชีวิตออมทรัพย์ ที่เหมาะกับคนที่ต้องการคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการออมทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรเลือกบริษัทประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นคง เพราะการทำประกันชีวิตนอกจากนำมาลดหย่อนภาษีแล้ว ยังเป็นการทำประกันแบบระยะยาว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจะได้มีบริษัทประกันภัยมาคอยรับผิดชอบช่วยเหลือ ไม่ปิดหนีไปก่อนให้กังวลใจนั่นเอง...