พกบัตรเครดิตเที่ยวต่างประเทศอุ่นใจ ร่วมช้อปสนุกรูดใช้สบาย ไม่ต้องหนักกระเป๋า

 

ใช้บัตรเครดิตดีต่อการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอย่างไรบ้าง?

 

สำหรับหลายคนที่มีใจรักในการเดินทาง.. การได้ไปท่องเที่ยวในต่างประเทศปีละครั้งหรือหลายครั้งตามใจอยากดูเหมือนจะเป็นความฝันที่ไม่ว่าใครก็คงอยากจะให้ทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งหนึ่งในหนทางที่เป็นไปได้และง่ายดายมากที่สุดคือการใช้บัตรเครดิต เพราะเจ้าบัตรเครดิตใบเล็กๆนี้ช่วยทำให้คุณรูดนำเงินในอนาคตมาใช้เพื่อสนับสนุนแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้อย่างครอบคลุมมากกว่าเดิมขึ้น ถ้าหากใครกำลังวางแผนจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วอยากใช้บัตรเครดิตร่วมไปเที่ยวต่างประเทศอย่างคุ้มค่ามากที่สุด หรือมีปัญหากังวลใจเกี่ยวกับบัตรเครดิตไม่ว่าจะเป็นอัตราค่าธรรมเนียมในการใช้ แลกเปลี่ยสกุลเงินเป็นเท่าไหร่ หรือติดหนี้บัตรเครดิตแล้วเดินทางไปยังต่างประเทศได้ไหม!? ขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้กันได้เลย

 

บัตรเดบิต กับบัตรเครดิตต่างมีความแตกต่างกันอย่างไร?

 

 

 

บัตรเดบิต และบัตรเครดิต มีลักษณะการใช้งานที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แต่มีคุณสมบัติในการใช้บางประการที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนระหว่างบัตรทั้งสองประเภท เลยขอทำการสรุปข้อมูลที่น่าสนใจแบบพอสังเขปดังต่อไปนี้

ข้อดีของการใช้บัตรเดบิตในต่างประเทศ

 

 

 

บัตรเดบิต มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับบัตรเครดิต ด้วยการนำมาใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ แต่จะมีอัตราของวงเงินที่ต่ำกว่าบัตรเครดิต และจะทำการตัดยอดเงินที่ต้องชำระออกจากบัญชีเงินฝากในทันที ทำให้ไม่ต้องหมดห่วงในการชำระหนี้กันในภายหลัง

ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้ในต่างประเทศ

 

 

 

ในการท่องเที่ยวในต่างประเทศการพกบัตรเครดิตเอาไว้ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณอุ่นใจด้านการเงิน แถมยังมีโอกาสที่จะได้รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นอีกมากมายที่จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวพักผ่อนมีความสุขมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับข้อดีที่น่าสนใจของการพกบัตรเครดิตในต่างประเทศมีดังต่อไปนี้

1.ใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ : ไม่ต้องกลัวถูกโจรกรรม

 

โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยมิจฉาชีพและคนที่ไม่หวังดีมากมาย ดังนั้น การพกเงินทองและของมีค่าเพื่อนำไปใช้จ่ายในขณะที่กำลังเดินทางไปท่องเที่ยว ณ ต่างประเทศจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก ทำให้การเลือกใช้บัตรเครดิตโดยเฉพาะแบบที่ได้รับการปกป้องสองชั้นที่ต้องทำการอนุมัติผ่านโทรศัพท์มือถืออีกครั้งก่อนทำการรูดใช้จ่ายจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

2.ใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ : รับสิทธิประโยชน์มากมาย

 

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมากที่สุดของบัตรเครดิต คือ ประกันภัยอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ ซึ่งบัตรเครดิตหลายใบยังมอบวงเงินคุ้มครองมากถึงหลักล้านบาทให้กับเจ้าของบัตรและสมาชิกในครอบครัวที่ร่วมเดินทางไปด้วย นอกจากนี้ยังมีประกันกระเป็าล่าช้า สายการบินล่าช้าหรือตกเที่ยวบินอีกด้วย เรียกได้ว่าเพียงแค่พกบัตรเครดิตเอาไว้ในกระเป๋าก็คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

3.ใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ : มอบโปรโมชั่นที่น่าสนใจเมื่อใช้ในต่างประเทศ

 

บัตรเครดิตสำหรับใช้ในต่างประเทศโดยส่วนใหญ่มักที่จะมีการมอบโปรโมชั่นดีๆ ที่เหมาะกับการช้อปปิ้ง จับจ่ายใช้สอยในต่างประเทศเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นลดราคาหรือเครดิตเงินคืน เรียกได้ว่ายิ่งใช้ก็ยิ่งมีความคุ้มค่ามากกว่าเดิม

4.ใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ :เหมาะกับการใช้ชำระสินค้ามูลค่าสูงและปลอดภัย

 

การซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงเหมาะอย่างมากในการใช้งาบัตรเครดิต เพราะช่วยให้ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมากนอกจากจะมีความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว การซื้อสินค้าที่มีราคาสูงด้วยบัตรเครดิตยังช่วยทำให้ได้รับคะแนนสะสมบัตรเครดิตที่มากขึ้นอีกด้วย

5.ใช้บัตรเครดิตเที่ยวและรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ : หมดปัญหาการตามหาสถานที่แลกเงิน

 

เมื่อใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายในต่างประเทศ สามารถชวยลดปัญหาในการตามหาสถานที่แลกเงิน ซึ่งเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ปราศจากความกังวลใจว่าเงินในกระเป๋า

 

การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศ ควรคำนึงถึงอะไรกันบ้าง!?

 

1.การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ : ความปลอดภัยในการใช้งานบัตรเครดิต

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจสถานที่ใดในโลก ขอแนะนำว่าความปลอดภัยในการใช้งานบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วทางสถาบันทางการเงินจะมีการติดตามการใช้งานอยู่เสมอ หากมีการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศโดยไม่ได้ทำการแจ้งก่อนก็มีโอกาสที่จะถูกระงับการใช้งานได้โดยไม่ทันรู้ตัว ดังนั้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ควรทำการจดหมายเลขติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงิน เพื่อที่จะได้ทำการติดต่อประสานงานเมื่อเกิดปัญหาขึ้น

2.การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ: อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากการใช้บัตรเครดิต

การแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีความสำคัญอย่างมากเมื่อเดินทางไปยังต่างประเทศ จะมีอัตราแลกปลี่ยนสกุลเงินด้วยมาเกี่ยวข้องด้วย ควรทำการตรวจสอบอัตราราคาการแลกเปลี่ยนให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดรายจ่ายมากขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว

3.การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ: ค่าธรรมเนียมความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน

ทุกครั้งที่ทำการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ  ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน ซึ่งแต่สถาบันทางการเงินจะมีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่แตกต่างกัน อยู่ที่ประมาณ 2-3 % ของการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ

4.การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ: ตรวจสอบร้านค้าในต่างประเทศว่ารับบัตรเครดิตหรือเปล่า

แม้ว่าบัตรเครดิตจะเป็นสินเชื่อด้านการเงินที่คนเกือบทั้งโลกให้การยอมรับ แต่บางครั้ง บางรา้นค้าก็ไม่ได้ให้บริการรับบัตรเครดิตเช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ขอแนะนำให้ตรวจสอบให้ดีเสีก่อนว่า ร้านค้า / บริการดังกล่าว มีสัญลักษณ์ของ Master Card หรือ VISA หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่มี แสดงว่าไม่สามารถใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศได้ แล้วต้องเปลี่ยนมาเป็นการชำระด้วยเงินสดแทนนั่นเอง

 

เลือกใช้บัตรเครดิตร่วมเดินทางไปยังต่างประเทศอย่างไรให้ดีที่สุด?

 

สิ่งแรกที่ควรให้ความใส่ใจมากที่สุดในการเลือกใช้บัตรเครดิตเพื่อร่วมเดินทางไปยังต่างประเทศ คือ การเลือก “บัตรเครดิตที่เหมาะกับการใช้งานในต่างประเทศ” โดยเลือกจากสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตว่ามีความเอื้อความสะดวกสบายในการใช้งานต่างประเทศมากน้อยเพียงใด โดยพยายามเลือกบัตรเครดิตร่วมที่ให้สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นที่ครอบคลุมในการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตอบโจทย์ของคุณมากที่สุด อาทิเช่น

 

• ใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ช่วยในการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมและที่พักได้อย่างครอบคลุม
• ใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ มอบประกันภัยชั้นหนึ่งในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ
• ใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ รับคะแนนสะสมพิเศษ เมื่อรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศ
• รับของสมนาคุณพิเศษเมื่อใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ

 

ถึงแม้การใช้บัตรเครดิตปตท จะช่วยให้การท่องเที่ยวและช้อปปิ้งง่ายดายมากขึ้น ยังมีความบางสิ่งที่คุณควรทราบเพื่อความสบายใจในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวได้อย่างถูกต้องมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือทุกครั้งที่รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ ต้องเสียค่าธรรมเนียม “ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน” ให้กับผู้ให้บริการบัตรเครดิต ซึ่งเป็นตัวเลขแฝงที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นข้อสงสัยเมื่อบิลเรียกชำระค่าบัตรเครดิตว่าจำนวนเงินเหล่านั้นมาจากไหนกัน?

 

บัตรเครดิตเมื่อทำการรูดใช้ในต่างประเทศต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่?

 

ถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะมีความสะดวกสบายอย่างมากยามเมื่อต้องพกพาไปยังต่างประเทศ แต่เวลาที่ต้องใช้บัตรเครดิตต่างประเทศ เมื่อทำการใช้บัตรเครดิตรูดต่างประเทศนอกจากเงินที่ต้องชำระให้กับค่าสินค้าหรือบริการ คุณยังจำเป็นที่จะต้องเสีย “ค่าธรรมเนียมความเสี่ยงในการแกลงสกุลเงิน” ให้กับทางธนาคารเป็นค่าบริการพิเศษเพิ่มขึ้นมาต่างหาก ด้วยเหตุผลที่ทางธนาคารต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ส่วนเมื่อทำการใช้บัตรเครดิตรูดต่างประเทศแล้วจากค่าเงินบาทจะถูกเปลี่ยนค่าให้กลายเป็นสกุลเงินในประเทศที่ทำการรูดบัตรเครดิตต่างประเทศ โดยคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผ่านบัตรเครดิต รวมไปถึงการถอนเงินสด (Cash Advance) ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขที่ควรทราบดังต่อไปนี้

 

เงื่อนไขสำคัญที่ควรทราบในการเปลี่ยนสกุลเงินเมื่อทำการใช้บัตรเครดิตรูดต่างประเทศ

1.รูดใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศสกุลเงินจะถูกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐโดยอัตโนมัติ

 

เมื่อทำการรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศ ถ้าหากสกุลเงินของประเทศนั้นไม่ได้เป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐสกุลเงินจะถูกแปลงจากเงินบาทไปเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อนเสมอ โดยมีอัตราการเปลกเปลี่ยนยึดตามหลักเกณฑ์ร่วมของบัตรเครดิตที่คุณใช้ โดยมีอัตราการแลกเปลี่ยนที่สามารถทำการตรวจสอบได้ด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ของบัตรเครดิตร่วมต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักกันดี อาทิเช่น VISA CARD , MASTER CARD , UNION PAY , JCB และ AMEX เป็นต้น จากนั้นนำจำนวนเงินที่ต้องการรูดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการไปคูณกับอัตราการเปลี่ยนสินค้าและบริการก็จะได้จำนวนเงินที่จำเป็นต้องจ่าย

 

2.รูดใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศทำการคูณอัตราความเสี่ยง

 

นำจำนวนเงินที่ต้องชำระทั้งหมดมาทำการคูณกับ “ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน” โดยอิงอัตรานี้จากธนาคารและสถาบันทางการเงิน เพื่อให้ได้รับค่ารูดบัตรเครดิตในต่างประเทศที่ต้องจ่ายจริง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวอยู่ที่ระหว่าง 2 – 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย ดังต่อไปนี้

 

ธนาคารที่คิดค่าความเสี่ยงจากการแปลลงสกุลเงินบัตรเครดิตต่างประเทศไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์

          ได้แก่ บัตรเครดิตร่วมต่างประเทศของ บัตรเครดิตกรุงไทย และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) เป็นต้น

 

ธนาคารที่คิดค่าความเสี่ยงจากการแปลลงสกุลเงินบัตรเครดิตต่างประเทศไม่เกิน 2.5 เปอร์เซ็นต์

          ได้แก่ บัตรเครดิตร่วมต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซิตี้แบงก์ เซ็นทรัล เดอะวัน เครดิตการ์ด ธนาคารทหารไทย เทสโก้ การ์ด ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต แบงค์ออฟไชน่า บัตรกรุงศรีอยุธยา เฟิร์สช้อยส์ ธนาคารยูโอบี ออล-เวย์ส อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ธนาคารออมสิน และอิออน เป็นต้น

 

3.รูดใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศนำจำนวนเงินที่ชำระมาคูณกับค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน

 

นำจำนวนเงินที่ต้องชำระค่าสินค้าและบริการมาคูณกับอัตราค่าความเสี่ยงจาการแปลงสกุลเงิน จะได้รับจำนวนเงินทั้งหมดที่จำเป็นต้องชำระคืนให้กับบัตรเครดิตในภายหลัง

 

เพื่อความชัดเจนในการรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศขอทำการยกตัวอย่างวิธีการคำนวณค่าเงินที่ต้องใช้จริงเมื่อทำการรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศอย่างเพื่อให้เข้าใจอย่างง่ายดายมากขึ้น ดังต่อไปนี้

ตัวอย่าง : การคำนวณเงินที่รูดบัตรเครดิตใช้ในต่างประเทศแล้วต้องชำระคืนในภายหลังอย่างถูกต้อง

 

นาย A เลือกใช้บริการบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ในขณะที่ทำการเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการซื้อสินค้ามูลค่า 30,000 เยน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2562 จำนวนเงินบาทที่นาย A ต้องชำระคืนให้กับทางธนาคารในรูปแบบของเงินบาทนั้น มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

 

อันดับแรกต้องทำการตรวจสอบอัตราการแลกเปลี่ยนของธนาคาร KTC JBC ได้จากเว็บไซต์ “อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ”  โดยในวันที่ 10 มิถุนายน 2562 อัตราการเปลี่ยนจะอยู่ที่

 

31.154880000 บาท = 1 ดอลลาร์สหรัฐ

108.550 เยน = 1 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

เมื่อทำการชำระค่าสินค้า 30,000 เยน  เมื่อทำการแปลงค่าเงิน 30,000 เยน จะมีมูลค่าเท่ากับ 276.370336 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อนำมาแปลงเป็นสกุลเงินบาท 276.370336 x  31.154880000 = 8,610.28465 บาท เมื่อนำมาคำนวณกับอัตราค่าความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ 2.5% จะอยู่ที่ 215.257116 บาท เมื่อนำมารวมกันเป็น 8,610.28465 + 215.257116 = 8,825.54177 บาท คือจำนวนยอดเงินโดยประมาณที่ต้องจ่ายคืนให้กับทางบัตร KTC JBC เมื่อทำการใช้บัตรเครดิตร่วมต่างประเทศนั่นเอง ในบางครั้งผู้ให้บริการบัตรเครดิตและธนาคารยังมักมีการจัดโปรโมชั่นส่วนลดค่าธรรมเนียมอัตราความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่น้อยลง ที่จำเป็นจะต้องทำการตรวจสอบโปรโมชั่นเหล่านี้เพื่อช่วยให้ทำการช้อปปิ้งในต่างประเทศได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวลในการใช้บัตรเครดิตปตทกันอีกต่อไป

 

สิ่งที่ควรทราบและควรทำก่อนนำบัตรเครดิตไปรูดใช้ในต่างประเทศ

 

 

ก่อนที่จะนำบัตรเครดิตไปใช้ต่างประเทศ (บัตรเครดิต ปตท) มีข้อควรทราบหลายประการที่จะช่วยทำให้การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศของคุณมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้

1.ใช้บัตรเครดิตต่างประเทศควรแจ้งสถาบันการเงินก่อนออกเดินทาง

 

ก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ขอแนะนำให้ทำการแจ้งกับธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ให้บริการบัตรเครดิตว่าคุณกำลังจะเดินทางไปยังประเทศใด และพกพานำบัตรเครดิตร่วมต่างประเทศใบใดไปใช้บ้าง เพราะถ้าหากไม่ทำการแจ้งว่ามีการใช้บัตรเครดิตต่างประเทศในบางผู้ให้บริการบัตรเครดิตสามารถทำการระงับการใช้งานของบัตรได้ในทันทีเมื่อถูกพบว่านำไปใช้ในสถานที่ที่แตกต่างกันเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของบัตร ดังนั้นการแจ้งไปยังผู้ให้บริการบัตรเครดิตล่วงหน้าจึงมีความสำคัญอย่างมาก

2.ใช้บัตรเครดิตต่างประเทศควรพกบัตรสำรองเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน

 

การพกบัตรเครดิตเป็นเรื่องที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับเดินทางของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ในบางครั้งอาจเกิดกรณีที่ไม่คาดฝันขึ้น เช่น บัตรเครดิตสูญหาย ถูกโจรกรรม วงเงินของบัตรเครดิตเต็ม ฯลฯ การมีบัตรเครดิตสำรองที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้เอาไว้อีกสักใบ ช่วยการันตีความอุ่นใจให้ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณไม่มีกร่อยได้เป็นอย่างดี

3.ใช้บัตรเครดิตต่างประเทศการถ่ายสำเนาบัตรเป็นสิ่งสำคัญ

 

การถ่ายสำเนาบัตรเครดิต หรือถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลังของบัตรเอาไว้เป็นหลักประกันที่ดีว่าถึงแม้ในขณะเดินทางบัตรเครดิตจะเกิดการสูญหายหรือถูกโจรกรรมไป จะมีหลักฐานเพื่อใช้ประกอบการร้องขอความร่วมมือในประเทศที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ได้อย่างสะดวกมากขึ้น

 

4.ใช้บัตรเครดิตต่างประเทศอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินจะถูกคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐอัตโนมัติ

 

ทุกครั้งที่รูดบัตรเครดิตต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ สกุลเงินจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นดอลลาร์สหรัฐโดยอัตโนมัติ แต่หลายครั้งที่บางร้านค้าหัวใสอาจทำการออกใบเสร็จให้พร้อมกับเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศให้กลายเป็นดอลลาร์สหรัฐหากฟังเพียงเผินๆหลายคนอาจคิดว่าร้านค้าเหล่านั้นใจดีช่วยอำนวยความสะดวกให้ แต่ที่จริงแล้วร้านค้าเหล่านั้นจะได้กำไรจากการแปลงค่าเงินอีกเล็กน้อยนั่นเอง

 

เคล็ดลับในการรูดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศไม่ให้งบบานปลาย

 

บัตรเครดิตมีความปลอดภัยสูงและเหมาะอย่างมากในการพกไปใช้งานในต่างประเทศ อย่าไรก้ตามเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้งบในการท้องเที่ยวในต่างประเทศเกิดการบานปลายอย่างไม่ทันรู้ตัว ขอแนะนำให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศโดยอ้างอิงจากคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : อย่าลืมวางแผนให้ดี!

 

การวางแผนการใช้จ่ายเช่น ค่าที่พัก อาหาร เครื่องบินและช้อปปิ้ง เป็นต้น เอาไว้ก่อนอย่างคร่าวๆจะเป็นการช่วยตีกรอบในเรื่องของงบประมาณเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้จ่ายที่เกินตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะข่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบัตรเครดิตขึ้นมาในภายหลังอีกด้วย

2.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : ก่อนซื้อสินค้าอย่าลืมตรวจสอบค่าความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงินด้วย

 

สกุลเงินของแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกครั้งที่มีการรูดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะทำมีค่าบริการที่เรียกว่า "ค่าความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงิน" โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2-2.5% ของยอดการใช้จ่าย ดังนั้น อย่าลืมบวกค่าแปลลงสกุลเงินด้วยทุกครั้งไม่เช่นนั้นอาจเป็นการเพิ่มหนี้โดยไม่ทันรู้ตัว

3.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : ควรเลือกชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่นเสมอ

 

บางครั้งในการรูดใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศพนักงานจะถามว่าต้องการชำระเป็น "เงินบาท" หรือ "สกุลเงินท้องถิ่น" ในกรณีนี้ขอแนะนำให้ทำการชำระเป็นสกุลเงินท้องถิ่น เพราะมีอัตราการแลกเปลี่ยนที่ถูกกว่าเงินบาทราว 3-8 % ซึ่งจะช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในต่างประเทศให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี

4.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : ตรวจสอบทุกโปรโมชั่นของบัตรเครดิตให้ดีก่อนเดินทาง

 

บัตรเครดิตสำหรับใช้ในต่างประเทศมักที่จะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในขณะเดินทางไปยังต่างประเทศได้ เช่น รับเครดิตเงินคืนเมื่อทำการจองตั๋วเครื่องบิน ลดราคาที่พักและรถเช่าให้น้อยลง เป็นต้น แม้โปรโมชั่นเหล่านี้จะดูเหมือนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นลดราคาสินค้า แต่รับรองว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางให้น้อยลงได้อย่าน่าประทับใจอย่างแน่นอน

5.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : ใช้เงินสดบ้างในบางกรณี

 

ในบางครั้งการใช้เงินสดแทนบัตรเครดิตบ้าง เพราะการใช้เงินสดไม่มีค่าธรรมเนียมต่างๆมากมายเหมือนกับบัตรเครดิต นอกจากนี้การใช้เงินสดยังมีข้อดีที่ช่วยให้เห็นการใช้จ่ายได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

6.ใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายในต่างประเทศ : ภาษีนำเข้าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

 

แม้ว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะมีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมเรื่องของ "ภาษีนำเข้า" ด้วยเช่นกัน เพราะทางกรมศุลการกรจะอนุญาติให้นำของติดตัวผู้โดยสารที่ได้รับการยกเวินภาษีอากรในหมวดหมู่ของใช้ส่วนตัวที่มีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท (*ต้องไม่เป็นของผิดกฏหมาย) เข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ถ้าหากทำการช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลินมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ต้องมาเสียภาษีนำเข้าก้อนโตอีกรอบจนทพำให้เกิดปัญหางบที่บานปลายมากขึ้นกว่าเดิมได้นั่นเอง

 

 

ติดหนี้บัตรเครดิตไปต่างประเทศได้ไหม!?

 

 

หนึ่งในคำถามกวนใจของคนที่ใช้บัตรเครดิต แล้วมีปัญหาในเรื่องของการชำระค่าบริการจนติดหนี้บัตรเครดิต แล้วได้รับหมายศาลและอยู่ในระหว่างการเรียกตัวหรือชดใช้หนี้ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังต่างประเทศ จนทำให้เกิดคำถามว่า ติดหนี้บัตรเครดิตไปต่างประเทศได้ไหม!? ถ้าหากใครเป็นหนี้บัตรเครดิตก็ไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไป เพราะสามารถที่จะเดินทางออกนอกประเทศได้ เนื่องจากเป็นคดีเพ่ง ยกเว้นในกรณีที่ติดหนี้บัตรเครดิตจำนวนมากจนถูกฟ้องกลายเป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้นที่ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกประทศได้ หรือในกรณีที่ศาลมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

 

บทสรุปส่งท้าย : พกบัตรเครดิตไปท่องเที่ยวในต่างประเทศดีหรือเปล่า!?

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการพกบัตรเครดิตปตท... กว่าเดิมทำการแลกเงิน วามใส่ใจ ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นข้อสงสัยเมื่อบิลเรียกชำระบัตรเครดิหรือการพกเงินสดไปท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งในประเทศในดวงใจนั้นจะขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของคุณ แต่เมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อสียแล้ว การพกใช้บัตรเครดิตร่วมต่างประเทศเอาไว้ติดกระเป๋าก็ยังเป็นหลักประกันที่ช่วยการันตีทริปเดินทางท่องเที่ยวว่าจะไม่เกิดอุปสรรคด้านการเงินใดๆขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสุขและกลับถึงบ้านอย่างเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน