Contents
- 1 ทำไมคนถึงใช้บัตรเครดิตกันเยอะ...บัตรเครดิตคืออะไรกันนะ?
- 2 เครือข่ายผู้ให้บริการชำระเงินบัตรเครดิตคืออะไร?
- 3 ข้อดีของบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง?
- 4 บัตรเครดิตนั้นมีกี่ประเภท?
- 5 วงเงินของบัตรเครดิต หมายถึง?
- 6 บัตรเครดิตสามารถกดเงินสดได้ไหม?
- 7 บัตรเครดิต 1 ใบมีอายุการใช้งานกี่ปีกันนะ?
- 8 ส่งท้ายก่อนจะจากกัน : บัตรเครดิตคือเครื่องอำนวยความสะดวกแต่ก็เป็นเครื่องมือทำร้ายเราได้เช่นกัน
ทำไมคนถึงใช้บัตรเครดิตกันเยอะ...บัตรเครดิตคืออะไรกันนะ?
บัตรเครดิต คือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้กับผู้ถือบัตรโดยธนาคารพาณิชย์ หรือผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(Non-bank) ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ขอบเขตของบัตรเครดิตในนั้น ๆ สิทธิประโยชน์ดังกล่าว เช่น
- สามารถใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดเพื่อชำระสินค้าและบริการได้ โดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงินทันที ณ ร้านค้าที่รับบัตรเครดิตหรือแม้กระทั่งการชำระผ่านทางออนไลน์ ซึ่งร้านค้านั้น ๆ จำเป็นที่จะต้องมีสัญลักษณ์เครือข่ายผู้ให้บริการแบบเดียวกับบนบัตรเครดิตของเรา เช่น สัญลักษณ์ VISA, Master Card, Japan Credit Bureau(JCB) ฯลฯ
- สามารถรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามรายการส่งเสริมการขาย เช่น ได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกของรางวัล, ส่วนลดจากร้านค้า, การผ่อนชำระสินค้าและบริการด้วยดอกเบี้ย 0%, ได้รับเงินคืนจากการใช้จ่ายในรูปแบบ Cash Back, บริการที่จอดรถ, สิทธิ์การใช้ห้องรับรองตามสถานที่ต่าง ๆ , สิทธิ์ความคุ้มครองเมื่อขณะเดินทางไปต่างประเทศ ฯลฯ
![คัดมาแล้ว! [ 3 บัตรเครดิต KTC สุดคุ้ม ] สำหรับผู้ที่มีฐานเงินเดือน 15,000 บาท](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2021/09/emil-kalibradov-a4maTFz1QPc-unsplash-150x150.jpg)
เครือข่ายผู้ให้บริการชำระเงินบัตรเครดิตคืออะไร?
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิต (Payment Gateway) หรือว่าที่เพื่อน ๆ คุ้นเคยกันก็คือสัญลักษณ์บนบัตรเครดิตแบบต่าง ๆ เช่น VISA, Master Card, JCB, UnionPay สัญลักษณ์เหล่านี้แหละค่ะที่เป็นเครือข่ายของการชำระเงินบัตรเครดิต โดยพวกเขาจะเป็นตัวกลางในการชำระเงินระหว่างร้านค้าและสถาบันทางการเงินนั่นเอง แต่ละเครือข่ายก็จะให้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- บัตรเครดิต VISA : เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและสามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วโลก ทั้งร้านค้าและการบริการ
- บัตรเครดิต Master Card : เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตจากประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นกัน การใช้งานบัตรไม่แตกต่างกับบัตรเครดิต VISA แต่มีการรองรับการใช้งานจากร้านค้ามากกว่า
- บัตรเครดิต JCB : เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากสิทธิประโยชน์ที่ใช้ในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการแล้ว บัตรเครดิต JCB ยังให้สิทธิประโยชน์ในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก ตอบโจทย์คนชอบเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
- บัตรเครดิต UnionPay : เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิตจากประเทศจีน นอกจากสิทธิประโยชน์ที่ใช้ในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการแล้ว บัตรเครดิต UnionPay ยังให้สิทธิประโยชน์ในการใช้จ่ายที่ประเทศจีน มาเก๊า ไต้หวัน และฮ่องกง รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยสกุลเงินของประเทศดังกล่าวด้วย
ข้อดีของบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง?
- ข้อดีของบัตรเครดิต คือ ความสะดวกสบาย : เนื่องจากบัตรเครดิตสามาถพกพาได้ง่าย และสามารถใช้ชำระค่าสินค้าก่อนได้ถึงแม้ท่านจะยังไม่พร้อมจ่ายค่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในตอนนี้ก็ตาม
- ข้อดีของบัตรเครดิต คือ ความปลอดภัย : การพกเงินสดจำนวนมากเสี่ยงต่อการโดนโจรกรรม ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อท่านสามารถพกเพียงแค่บัตรเครดิตใบเล็ก ๆ ใบเดียว
- ข้อดีของบัตรเครดิต คือ ตัวช่วยฉุกเฉิน : เมื่อเกิดเรื่องฉุกเฉินที่จำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนมากอย่างเร่งด่วน บัตรเครดิตช่วยคุณได้
- ข้อดีของบัตรเครดิต คือ สิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า : นอกจากที่จะช่วยชำระค่าสินค้าและบริการแล้วบัตรเครดิตยังมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ คืนให้กับผู้ใช้อีกด้วยถ้าหากใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติก็จะได้รับประโยชน์มากมาย
บัตรเครดิตนั้นมีกี่ประเภท?
ประเภทของบัตรเครดิตนั้นสามารถแบ่งได้หลากหลายแบบตามแต่ขอบเขตของเกณฑ์การแบ่ง วันนี้ผู้เขียนขอหยิบเกณฑ์การแนะนำประเภทบัตรเครดิตแบบแบ่งตามขอบเขตการใช้งานมาแบ่งปันกันค่ะ บัตรเคตรดิตที่แบ่งตามขอบเขตการใช้งาน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- บัตรเครดิตที่ใช้ได้ทั่วโลก (International Credit Card) : กล่าวคือบัตรเครดิตประเภทนี้สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศนั่นเอง โดยบัตรเครดิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น บัตร VISA, บัตร Master Card
- บัตรเครดิตสำหรับใช้ในประเทศ (Local Credit Card) : บัตรเครดิตประเภทนี้จะสามารถใช้ได้เฉพาะในประเทศนั้น ๆ ที่เป็นผู้ออกบัตรไม่สามารถนำไปชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ต่างประเทศได้ค่ะ
- บัตรเครดิตที่ใช้ได้เฉพาะกับร้านค้าบางแห่ง (Store Card/Private Label) : เป็นบัตรเครดิตที่ออกมาเพื่อใช้เฉพาะกับการชำระสินค้าและบริการกับร้านค้าบางแห่งเท่านั้น เช่น บัตรเครดิตเครือเซ็นทรัล, บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส
วงเงินของบัตรเครดิต หมายถึง?
วงเงินของบัตรเครดิต (Credit Limit) หมายถึง จำนวนเงินสูงสุดของบัตรเครดิตใบนั้น ๆ ที่เราสามารถนำไปใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โดยทางธนาคารที่เป็นผู้ออกบัตรจะกำหนดวงเงินให้ตามความเหมาะสม ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาเพื่อกำหนดวงเงินก็จะขึ้นอยู่กับรายได้ อาชีพ ประวัติการชำระหนี้ เป็นต้นค่ะ ซึ่งวงเงินของบัตรเครดิตจะเป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้
| รายได้/เดือน (บาท) | วงเงินที่จะอนุมัติ |
| 15,000 – 30,000 | 1.5 เท่าของรายได้เฉลี่ย/เดือน |
| 30,000 – 50,000 | 3 เท่าของรายได้เฉลี่ย/เดือน |
| 50,000 ขึ้นไป | 5 เท่าของรายได้เฉลี่ย/เดือน |
บัตรเครดิตสามารถกดเงินสดได้ไหม?
การใช้บัตรเครดิตกดเงินสดนั้นสามารถทำได้ค่ะ โดยที่มีเงื่อนไขว่าต้องดูเงินคงเหลือในบัตรเครดิตว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ สามารถเบิกถอนได้เต็มจำนวนของวงเงินคงเหลือหรือไม่ บัตรเครดิตแต่ละใบก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปค่ะ
บัตรเครดิต 1 ใบมีอายุการใช้งานกี่ปีกันนะ?
ปกติแล้วบัตรเครดิตแต่ละใบจะมีอายุการใช้งาน 5 ปีค่ะ ซึ่งก่อนที่บัตรเครดิตจะหมดอายุนั้นทางธนาคารเจ้าของบัตรจะต่ออายุบัตรพร้อมทั้งส่งบัตรเครดิตใบใหม่มาให้ลูกค้าล่วงหน้า 1 เดือน โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องยื่นเอกสารอะไรค่ะ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในบัตรใบเก่าก็จะถูกโอนไปที่บัตรใหม่อัตโนมัติ
ส่งท้ายก่อนจะจากกัน : บัตรเครดิตคือเครื่องอำนวยความสะดวกแต่ก็เป็นเครื่องมือทำร้ายเราได้เช่นกัน
การใช้บัตรเครดิตที่ดีควรใช้ให้พอดี รู้ลิมิตการใช้ของตัวเราเองนะคะเพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่กลายเป็นเครื่องมือสร้างหนี้ขึ้นมาให้เราปวดหัวแทน ใช้บัตรเครดิตอย่างมีสตินะคะ
![[3 วิธีการ] ใช้บัตรกดเงินสดยังไงไม่ให้เป็นหนี้](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2021/10/rupixen-com-Q59HmzK38eQ-unsplash-2-150x150.jpg)
