[14 ประกันสุขภาพเด็ก-ลูกน้อย] เบี้ยถูก คุ้มครองโดนใจเลือกสมัครที่ไหนดี!?

มารู้จักกับ 14 ประกันสุขภาพลูกน้อยที่ผู้ปกครองไม่ควรพลาดประจำปี 2564 - 2565

 

ประกันสุขภาพลูกสำคัญไหม!?..

เชื่อว่าเป็นคำถามที่ผู้ปกครองหลายคนพยายามหาคำตอบเพื่อเป็นข้อมูลที่จะช่วยสนับสนุนในการทำประกันสุขภาพลูกของตัวเอง

ถ้าหากใครกำลังลังเลใจว่าควรทำประกันสุขภาพลูกดีไหม!? และถ้าทำควรทำกับที่ไหนดี!?

รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะมีคำตอบที่โดนใจมาฝากให้เป็นข้อมูลชิ้นเลิศประกอบการตัดสินใจได้อย่างแน่นอน...

 

ประกันสุขภาพ คืออะไร!?

 

คำว่าประกันสุขภาพ ในการดูแลของทาง คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ให้คำนิยามของคำว่าประกันสุขภาพเอาไว้ว่า คือประกันที่ให้การคุ้มครองค่าใช้จ่ายใน 7 ประการ ดังต่อไปนี้

 

1.ค่ารักษาพยาบาลเมื่อมีอาการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บจนกระทั่งต้องเข้ารับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยคุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการและค่าใช้จ่ายฉุกเฉินหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น

2.ค่าใช้จ่ายเมื่อจำเป็นต้องผ่าตัด

3.ค่าแพทย์ในการเยี่ยมตรวจรักษา

4.ค่ารักษาสำหรับผู้ป่วยนอก

5.ค่าคลอดบุตร

6.ค่ารักษาฟัน

7.ค่าชดเชยรายได้ประจำวัน

 

ประกันสุขภาพลูกน้อย คืออะไร!?

 

ประกันสุขภาพลูกน้อย คือ ประกันสุขภาพสำหรับทารกแรกเกิด ไปจนถึงวัยประมาณ 14 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ ที่แตกต่างกันไปของแต่ละบริาัทประกันภัย ซึ่งประกันสุขภาพลูกน้อยถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยง ที่ให้ความคุ้มครองนอกเหนือจากอาการเจ็บป่วย ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล พร้อมให้การคุ้มครองโรคที่มักทำให้ลูกน้อยมักที่ป่วยอย่างครอบคลุม ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี

 

ประกันสุขภาพลูกน้อยมีกี่แบบ!?

 

โดยพื้นฐานแล้วประกันสุขภาพลูกน้อยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.ประกันสุขภาพลูกน้อยแบบตลอดชีพ เน้นการคุ้มครองสุขภาพแบบระยะยาวขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์

2.ประกันสุขภาพลูกน้อยแบบสะสมทรพย์ ส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาแบบระยะสั้น มีการคืนเงินรายปีและทุนประกันชีวิตต่ำกว่า

3.ประกันสุขภาพลูกน้อยควบการลงทุน ช่วยในการเก็บออมเงินเอาไว้เพื่อให้ลูกใช้ในอนาคต เช่น เป็นทุนสำหรับการศึกษาต่อเป็นต้น เพราะประกันสุขภาพลูกน้อยลักษณะนี้จะสามารภถอนเงินออมจากทางกรมธรรม์ได้เลยนั่นเอง

 

ข้อดีของการทำประกันสุขภาพลูก

ประกันสุขภาพลูก เป็นหนึ่งในสิ่งที่พ่อแม่และผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะเด็กมีภูมิคุ้มกันที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ทำให้มีโอกาสอย่างมากที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่า แถมเมื่อเจ็บป่วยแต่ละครั้งก็ต้องนอนโรงพยาบาลรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลเป็นอย่างมาก ดังนั้น การทำประกันสุขภาพลูกอย่างเหมาะสมเอาไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งที่ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

ควรทำประกันสุขภาพลูกน้อย ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ดี!?

 

การซื้อประกันสุขภาพลูกน้อยที่ดีที่สุด คือ การทำเอาไว้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 3 เดือนแรก เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กสามารถเจ็บป่วยได้ง่ายดายมากที่สุด การซื้อประกันสุขภาพลูกน้อยเอาไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆนี้ ยังเป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลจากอาการเจ็บป่วยของเจ้าตัวน้อยได้อย่างสบายใจอีกด้วย เพราะประกันสุขภาพลูกน้อยนั้น มีจำนวนของเงินงวดประกันที่เท่ากันทุกเดือน ทำให้ผู้ปกครองสามารถที่จะวางแผนบริหารการเงินของตัวเองในแต่ละเดือนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

 

3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้การทำประกันสุขภาพให้เด็ก ลูกน้อยคุ้มค่า

 

1.เด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ป่วยง่ายมากกว่าผู้ใหญ่

2.เมื่อลูกน้อยเจ็บป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็ไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงเรื่องค่ารักษา เพราะเด็กมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าผู้ใหญ่อย่างมาก

3.ประกันสุขภาพเด็ก ชาวยคุ้มครองโรคได้อย่างหลากหลายและครอบคลุม

 

ประกันสุขภาพลูกน้อย ให้ความคุ้มครองในด้านใดบ้าง!?

 

โดยพื้นฐานแล้วการทำประกันสุขภาพลูกน้อยมักที่จะให้ความคุ้มครองในด้านสุขภาพของลูกน้อยในส่วนของการรักษาพยาบาล ดังต่อไปนี้

 

• ประกันสุขภาพลูกน้อย ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
• ประกันสุขภาพลูกน้อย ช่วยคุ้มครองค่าห้องพักในขณะที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
• ประกันสุขภาพลูกน้อย ช่วยคุ้มครองค่าดูแลรักษาในขณะที่กำลังพักฟื้น

 

ประกันสุขภาพลูกน้อยในปี 2564 ควรเลือกอย่างไรดี!?

 

สำหรับการเลือกประกันสุขภาพลูกน้อย ในปี 2564 ที่ทางบริษัทประกันภัยเอง ก็ได้มีการเสนอกรมธรรม์มาให้เลือกประกันอย่างมากมายนั้น ขอแนะนว่าโดยพื้นฐานแล้ว ควรให้ความใส่ใจในการเลือกประกันสุขภาพลูกน้อย โดยอ้างอิงจากคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

 

1.เลือกประกันสุขภาพลูกน้อย ที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเจบป่วยและอุบัติเหตุ

2.เลือกประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล

3.เลือกประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ประกันการคุ้มครองหากตรวจพบโรคประจำตัวเพิ่มเติมในอนาคต

4.เลือกประกันสุขภาพลูกน้อย ที่เหมาะกับกำลังททรัพย์ของตัวเอง

5.เลือกประกันสุขภาพลูกน้อย กับบริษัทประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือ

 

 

ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายดีไหม!?

 

ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย เป็นประกันสุขภาพที่ไม่กำหนด "วงเงินค่ารักษาพยาบาลในบางหัวข้อ" ในขณะเดียวกันก็จะใช้หลักการเหมาต่านจริง แต่ไม่เกินจำนวนของเงินทุนประกันสูงสุด ทำให้ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายมีความยืดหยุ่นมากกว่าการทำประกันสุขภาพเด็กทั่วไปที่เป็นแบบแยกค่าใช้จ่ายที่กำหนดวงเงินและความคุ้มครองในแต่ละหมวดหมู่เอาไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตอย่างชัดเจน และถ้าหากเกิดเจ็บป่วย ค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินที่กำหนดเอาไว้ ผู้ปกครองจะต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกินมาด้วยตัวเอง

 

ประกันสุขภาพลูกน้อยแบบระยะสั้นดีหรือเปล่า!?

 

ประกันสุขภาพลูกน้อย เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์ที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นแผนประกันที่ค่อนข้างมีความประหยัดเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นก็ค่อนข้างที่จะมีความจำกัดอีกทั้งระยะเวลาในการคุ้มครองเองก็ค่อนข้างที่จะสั้นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้น การเลือกประกันสุขภาพลูกน้อยแบบระยะสั้นอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ดุลพินิจของตัวเองว่าควรทำในช่วงเวลาใด มากกว่าการทำประกันสุขภาพลูกน้อยแบบระยะยาวที่สร้างความสบายใจได้มากกว่า

 

ทำประกันสุขภาพให้ลูกของอะไรดี!? มารู้จักกับเคล็ดลับในการเลือกให้ปัง! คุ้มค่าโดนใจกัน

 

1.เลือกทำประกันสุขภาพให้ลูก ให้ครอคลุมโรคยอดฮิตในเด็ก เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก อาหารเป็นพิษ ไวรัสลงกระเพาะ มือเท้าปากและอีสุกอีใส เป็นต้น

2.เลือกทำประกันสุขภาพให้ลูก ยิ่งทุนประกันสูงเท่าไหร่ก็จะได้รับการคุ้มครองที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับทางบริษัทประกันก็จะมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกที่ทุนประกันเหมาะสมกับกำลังทรัพย์ของตัวเองด้วย

3.เลือกทำประกันสุขภาพให้ลูก โดยการศึกษารายละเอยดของการคุ้มครอง ให้มีความเหมาะสมและตรงกับความตอ้งการให้มากที่สุด

4.เลือกทำประกันสุขภาพให้ลูก โดยทำการศึกษาข้อมูลของบริษัทประกันว่ามีความน่าเชื่อถือเพียงใด และมีการให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาหรือไม่

5.เลือกทำประกันสุขภาพให้ลูก ที่มีโรงพยาบาลคู่สัญญาใกล้บ้านหรือเดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างสะดวก

 

วิธีการเลือกตัวแทนประกันสุขภาพ สำหรับประกันสุขภาพลูกน้อยให้ดีที่สุด!

 

นอกจากการเลือกบริษัทประกันภัยและแผนกรมธรรม์สำหรับประกันสุขภาพลูกน้อยแล้ว การเลือกตัวแทนสำหรับการทำประกันสุขภาพลูกน้อยเอง ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะตัวแทนประกันภัยนี้เองจะเป็นคนที่ช่วยให้รายละเอียดและประสานงานให้ในกรณีที่ต้องเคลมประกันสุขภาพลูกน้อย สำหรับตัวแทนที่ดีนั้น ขอแนะนำให้เลือกโดยอ้างอิงอิงจากหลักการดังต่อไปนี้

 

1.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่เคลมสินไหมทดแทนรวดเร็ว

2.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ให้รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงในกรมธรรม์ที่รวดเร็ว

3.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ช่วยติดต่ออย่างรวดเร็วในกร๊เอกสารหาย เช่น บัตรประกันสุขภาพหาย เป็นต้น

4.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่ช่วยประสานงานกับทางธรงพยาบาลให้อย่างรวดเร็ว

5.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่มีการแนะนำโรงพยาบาลที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษหรือโปรโฒชั่นให้สำหรับการรักษาพยาบาล

6.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ที่มีบริการชำระค่าเบี้ยประกันหรือต่ออายุรายปีให้อย่างเหมาะสม

7.เลือกตัวแทนประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพลูกน้อย ให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ

 

7 โรคฮิตในเด็กวัยซน ที่ต้องให้ความสำคัญในการซื้อประกันสุขภาพให้ลูกน้อย มีอะไรกันบ้าง!?

 

สำหรับ 7 โรคสุดฮิต! ที่มักเกิดขึ้นกับลูกน้อยวันซนนั้น ที่จำเป็นอย่างมากในการให้ความสำคัญกับการซื้อประกันสุขภาพให้กับเด็ก มี่รยละเอียดที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

 

1.โรคฮิตในเด็ก โรคปอดอักเสบ หรือปอดบวม (Pneumonia)

2.โรคฮิตในเด็ก โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)

โรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน (Acute Gastroenteritis-AGE)

3.โรคฮิตในเด็ก โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus )ของระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงโรคไข้หวัดนก หรือโรคไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีก (Avian Influenza) และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 (H1N1) ด้วย (แต่ไม่ได้รวมถึงโรคไข้หวัดธรรมดา Common Cold /การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน Upper Respiratory Tract Infection)

4.โรคฮิตในเด็ก โรคไข้เลือดออก (Dengue Hemorrhagic Fever) ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกี่ (Dengue Virus)

5.โรคฮิตในเด็ก โรคหัดและหัดเยอรมัน (Measles และ German Measles)โรคไข้ออกผื่นที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส Rubeola และโรคหัดเยอรมัน ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Rubella

6.โรคฮิตในเด็ก ภาวะโลหิตเป็นพิษ หรือ ภาวะเลือดเป็นพิษ (Septicemia, Septicaemia)

7.โรคฮิตในเด็ก โรค มือ เท้า ปาก (Hand, Foot and Mouth Disease) โรคติดต่อที่เกิดจากเอนเทอโรไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ มีตุ่มแดงที่เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม กลายเป็นตุ่มพองใส รอบแผลอักเสบแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเป็นหลุมตื้นๆ และพบตุ่มที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า

 

อยากทำประกันสุขภาพให้ลูกน้อยวัยซนที่ไหนดีในปี 2564-2565 ชาว Pantip มีคำตอบ!!!

 

สมาชิก Pantip  : White Angelina

สมาชิก Pantip  : คนใหม่คนเดิม

สมาชิก Pantip  : 5951585

สมาชิก Pantip  : 1104747

สมาชิก Pantip  : 6162971

 

14 ประกันสุขภาพลูกที่น่าสนใจที่สุดในปี 2563 – 2564 มีที่ไหนกันบ้าง!?

 

1.ประกันสุขภาพลูก: ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• คุ้มครองเด็กอายุ 11 ปี ขึ้นไป
• ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
• ดูแลค่ารักษาเมื่อพักในโรงพยาบาลสูงสุด 1.2 ล้านบาท / ปี (*2 ล้านบาทสำหรับเด็กอายุ 11 ปี ขึ้นไป)
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง
• ใช้บริการ Nursing Care ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,000 / วัน
ค่าห้อง ICU	4,000
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	1,000
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

 

2.ประกันสุขภาพลูก: ประกันสุขภาพเด็ก สินมั่นคงประกันภัย (Super Kisd)

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เด็กอายุ 1-14 ปี
• เบิก OPD/PID โรคที่เด็กนิยมเป็น ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ตาแดง มือ เท้าและปาก
• เบี้ยประกันภัยเพียง 4,300 บาท / ปี

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,500
ค่าห้อง ICU	5,000
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	10,000
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน	100,000
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม	2,000 / ปี

 

3.ประกันสุขภาพลูก: ประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ ไทยพาณิชย์ประกันภัย

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กตั้งแต่ 1 วัน ถึง – 60 ปี
• คุ้มครองการรักษาทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
• ครอบคลุมทั่วโลก
• คุ้มครองสุขภาพสูงสุด 1 ล้านบาท

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,000  / วัน
ค่าห้อง ICU	เหมาจ่ายตามจริง
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ	10,000 / ปี
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	2,000 / วัน
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

4.ประกันสุขภาพลูก: สุขทุกวัย ไทยพาณิชย์ประกันภัย

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• คุ้มครองเด็กอายุ 15 วัน ถึงอายุ 65 ปี
• เลือกแผนการคุ้มครองได้สามแบบ S M และ L
• ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อรักษากับโรงพยาบาลในเครือ 270 แห่งทั่วประเทศ

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	1,400
ค่าห้อง ICU	2,800
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	800
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	60,000 (*800 /วัน)
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน	650,000
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

5.ประกันสุขภาพลูก: เพื่อลูกรัก ไทยประกันชีวิต

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 15 ปี
• คุ้มครอง 5 โรคที่มักเกิดในเด็ก *โรคปอดบวม / ปอดอักเสบ โรมมือเท้าปาก โรคอาหารเป็นพิษ โรคบาดทะยักและโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
• ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
• ครบสัญญาคืนเงินเบี้ยประกัน 325% (*ปีที่ 7 สูงสุด 50,000 บาท และครบกำหนดสัญญา 650,000 บาท)
• เลือกการคุ้มครองได้มากถึง 11 แผน

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	4,000  / วัน (*กรณี 5 โรคที่มักเกิดในเด็ก)
ค่าห้อง ICU
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ	100,000
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล	2,000
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

6.ประกันสุขภาพลูก: ประกันภัยวัยซน ธนาคารกสิกรไทย (เมืองไทยประกันชีวิต)

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะสำหรับเด็ก 14 วัน – 15 ปี
• คุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท
• คุ้มครอง 7 โรคที่มักเกิดขึ้นกับเด็ก เช่น โรคปอด โรคอาหารเป็นพิษ โรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคหัดและหัดเยอรมัน ภาวะโลหิตเป็นพิษ/ภาวะเลือดเป็นพิษและโรคมือ เท้า ปาก

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล
ค่าห้อง ICU
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ	20,000
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน	2,000 / วัน (*บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ)
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล	1,500 /วัน (*เจ็บป่วยจาก 7 โรค ที่เด็กนิยมเป็น)
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

 

7.ประกันสุขภาพลูก: ประกันภัยสำเร็จรูป Healthy Kid กรุงไทย – แอกซ่า

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะสำหรับเด็ก 1 เดือน ถึง 10 ปี
• ประกันคุ้มครองชีวิตเริ่มต้น 500,000 บาท
• รับเงินคืนเมื่อสิ้นกรมธรรม์ที่ 2 เป็นต้นไป ในรูปแบบเงินออมเพื่อลูก

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,500 / วัน
ค่าห้อง ICU	5,000
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	800 / วัน
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	6,000 / ครั้ง
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	6,000 / ครั้ง
ค่าทันตกรรม

 

 

8.ประกันสุขภาพลูก: สุขภาพเด็กเล็ก เมืองไทยประกันชีวิต

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กอายุ 30 วัน ถึง 10 ปี
• รองรับการรักษาฉุกเฉินในต่างประเทศ
• ใช้บริการกับโรงพยาบาลเครือข่าย 450 แห่ง ทั่วประเทศ

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,500 / วัน
ค่าห้อง ICU	5,000 / ครั้ง
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	680
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	8,000
ค่าทันตกรรม

9.ประกันสุขภาพลูก: H&S Plus Gold AIA (สัญญาเพิ่ม)

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 70 ปี
• คุ้มครองยาวนานสูงสุดถึงอายุ 80 ปี
• รักษาพยาบาลแบบ IPD เหมาจ่ายตามจริง (*ไม่เกินผลประโยชน์รายปี)
• เลือกแผนการประกันได้ 5 แบบ
• ผลประโยชน์ต่อรอบปีกรมธรรม์สูงสุด 1 ล้านบาท

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,000 / วัน
ค่าห้อง ICU	2 เท่า
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	1,200
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	10,000 (*รักษาต่อเนื่อง)
ค่าทันตกรรม

10.ประกันสุขภาพลูก: รักจัดหนัก สบายใจเรื่องค่ารักษา สัญญาเพิ่มเติม (HC) ไทยสมุทรประกันชีวิต

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 1 วัน ถึง 64 ปี
• ต่ออายุสัญญาได้ถึงอายุ 69 ปี
• ไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายเมื่อเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในกับโรงพยาบาลเครือข่าย
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินขณะเป็นผู้ป่วยนอก

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	1,000 / วัน
ค่าห้อง ICU	2,000
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	400
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	3,000 (*รักษาพยาบาลต่อเนื่อง)
ค่าทันตกรรม

 

11.ประกันสุขภาพลูก: ประกันแฟมิลี่ แคร์ เอฟดับบลิวดี

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• คุ้มครองสมาชิกในครอบครัว 3 คนขึ้นไป (พ่อ แม่ ลูก)
• รับส่วนลดเบี้ยประกัน 25% เมื่อสมาชิกในครอบครัวซื้อประกันพร้อมกัน 3 คน ขึ้นไป
• รับการรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย กับโรงพยาบาลและคลินิกเครือข่ายกว่า 380 แห่งทั่วประเทศ

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล
ค่าห้อง ICU
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	1,000 / ครั้ง
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน	25,000 / ครั้ง
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ค่าทันตกรรม

 

12.ประกันสุขภาพลูก: แอ็กซ่า สมาร์ทพีเอ ลูกรัก แอกซ่าประกันภัย

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 1-17 ปี
• ไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
• มีแผนคุ้มครองให้เลือก 2 แผน

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล
ค่าห้อง ICU
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ	200,000
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	5,000 / ครั้ง
ค่าทันตกรรม	2,000 / ครั้ง

 

13.ประกันสุขภาพลูก: แผนซันนัลแคร์ Aetna

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• เลือกแผนคุ้มครองได้ 4 แบบ สูงสุด 6,000,000 บาท
• เครือข่ายสถานพยาบาลกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ
• ไม่ต้องพ่วงประกันชีวิต
• คุ้มครองอาการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมงทั่วโลก (*ยกเว้นสหรัฐอเมริกา ให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น)

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	1,400 / วัน
ค่าห้อง ICU	2,800
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	300
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	2,200
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	2,200
ค่าทันตกรรม

14.ประกันสุขภาพลูก: อาคเนย์ Easy Care อาคเนย์ประกันชีวิต

 

จุดเด่นของการประกันสุขภาพลูก

 

• ไม่ต้องพ่วงประกันชีวิต
• จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง (*ค่าใช้จ่าย Follow up ที่เกิดขึ้นภายใน 30 วัน หลังจากออกจากโรงพยาบาล)

 

ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพลูก

 

ผลประโยชน์และการคุ้มครอง	วงเงินคุ้มครอง (สูงสุด) / บาท
ค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล	2,000 / วัน
ค่าห้อง ICU	4,000
ค่าคุ้มครองอุบัติเหตุ
ค่าคุ้มครองสุขภาพ
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้	จ่ายตามจริง
ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก	500
ค่ารักษากรณีผู้ป่วยใน
ค่าชดเชยรายวัน เมื่อเข้ารักษาพยาบาล	1,500 (*500 / วัน กรณีนอนเฝ้าไข้ลูก)
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน	จ่ายตามจริง
ค่าทันตกรรม

 

การมองหาประกันสุขภาพลูกน้อยอาจเป็นเรื่องยาก แต่ให้มองแง่บวก และคิดถึง "รอยยิ้ม" ของเจ้าตัวเล็กเอาไว้เสมอ

 

การพยายามตามหาแผนประกันสุขภาพลูกน้อยที่มีราคาไม่แพง คุ้มค่ากับลูกน้อยของคุณอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและต้องใช้เวลา ถ้าหากใครเริ่มที่จะท้อกับการตามหา ลองมองโลกในแง่บวกว่าความพยายามนี้จะจบลงด้วยการที่ช่วยให้ลูกน้อยของคุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและมีสุขภาพที่ดี มีรอยยิ้มที่น่ารักอยู่บในหน้าตลอดเวลา เชื่อว่าแรผลักดันนี้จะช่วยให้ความพยายามของคุณไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน

 

บทสรุปส่งท้าย : ประกันสุขภาพลูกดีไหม น่าทำหรือเปล่าแล้วทำกับเจ้าไหนดี!?

 

 หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลที่น่าสนใจในข้างต้นกันไปแล้ว...

เชื่อว่า ณ ตอนนี้หลายคนคงสามารถที่จะตัดสินใจได้แล้วว่าประกันสุขภาพลูกของสถาบันไหนที่มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด

และหวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาประกันสุขภาพลูกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวเล็กแสนรักของตัวเองได้อย่างแน่นอน...