Contents
- 1 ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คบูโรให้ดี ลดโอกาสผ่านการอนุมัติไม่ทันรู้ตัว!
- 2 เครดิตบูโรคืออะไร สำคัญอย่างไรถึงไม่ควรพลาดทำการเช็คก่อนขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- 3 รู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองเสี่ยงติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? เช็คได้ที่ไหนบ้าง!?
- 4 หากเช็คแล้วพบว่ามีปัญหาเครดิตบูโร รู้สึกไม่สบายใจ ควรทำอย่างไร!?
- 5 สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร!?
- 6 ข้อดีของการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- 7 ติดเครดิตบูโรรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม ชาว Pantip มีคำตอบ!
- 8 รีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คบูโรคืออะไร!?
- 9 ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี ได้ไหม!?
- 10 ขั้นตอนขอยื่นเรื่องขอทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีปัญหา
- 11 ติดแบล็คลิส รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม!?
- 12 อยากขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. ติดปัญาหาบูโร แต่ปิดหมดแล้วมีขั้นตอนอย่างไร ชาว Pantip มีคำตอบ!
- 13 อยากขอรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. ติดปัญาหาบูโร ทางเจ้าหน้าที่สินเชื่อมีประเด็นน่าสนใจมาฝาก
- 14 บทสรุปส่งท้าย: ตรวจเช็คเครดิตบูโรพบปัญหาไม่ต้องกังวลใจ แก้ได้หายห่วง!!!
ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คบูโรให้ดี ลดโอกาสผ่านการอนุมัติไม่ทันรู้ตัว!
ในปัจจุบัน...
การขอรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่สำคัญสำหรับคนที่อยากลดอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระบ้านของตัวเองให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายนั่นก็คือ การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คประวัติเครดิตบูโรของตัวเองให้ดีเสียก่อน
ทั้งที่เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากประวัติเครดิตบูโรดี ไม่ว่าจะไปสมัครขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ที่ไหนก็ย่อมได้รับการยอมรับ แต่ถ้าหากประวัติแย่ก็จะให้ผลตรงกันข้ามเช่นกัน
เครดิตบูโรคืออะไร สำคัญอย่างไรถึงไม่ควรพลาดทำการเช็คก่อนขอรีไฟแนนซ์บ้าน
เครดิตบูโร เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปของ “บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ที่ทำหน้าที่ในการจัดเก็บประวัติธุรกรรมด้านการเงินทั้งหมดของผู้ที่ทำการกู้ยืมสินเชื่อทุกประเภทของผู้ที่ทำการขอกู้ยืมสินเชื่อ เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด สินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อบ้าน เป็นต้น โดยสถาบันทางการเงินและธนาคารต่างๆจะทำการพึ่งพาฐานข้อมูลของเครดิตบูโร ในการตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้ขอกู้และนำไปพิจารณาว่าควรจะอนุมัติวงเงินกู้หรือไม่นั่นเอง!? ถ้าหากมีประวัติที่ดีก็จะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติมากขึ้นตามไปด้วย
รู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองเสี่ยงติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? เช็คได้ที่ไหนบ้าง!?
สำหรับคนที่สงสัยว่าตัวเองติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? และอยากทำการตรวจเช็คเครดิตบูโรของตัวเองก็สามารถทำได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 2
- อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ปากซอยสุขุมวิท 25
- สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
- ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 4
- อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
- CITI Advance สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เมกา บางนา
*ใช้เวลาในการตรวจเช็คเครดิตบูโรประมาณ 15 นาที โดยมีค่าดำเนินการ 100 บาท
![อยากขอ [รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม] ดีไหม คุ้มค่าหรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2020/09/close-up-woman-s-hand-giving-house-key-man-wooden-table_23-2148204009-150x150.jpg)
หากเช็คแล้วพบว่ามีปัญหาเครดิตบูโร รู้สึกไม่สบายใจ ควรทำอย่างไร!?
ถ้าหากใครทำการตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองแล้วพบว่าอยู่ในสถานะของบัญชีดำ สามารถที่จะทำการปลดสถานะให้กลับมาเป็นปกติ เพื่อช่วยให้สามารถทำการขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้ไม่ยาก ด้วยการพยายามผ่อนชำระหนี้สินทั้งหมดให้รวดเร็วที่สุด โดยเริ่มต้นจากการพักชำระหนี้ จากนั้นชำระหนี้ให้มากกว่าจำนวนการชำระขึ้นต่ำ เพื่อเร่งการปิดบัญชีหนี้ให้ไม่มียอดคงค้างเหลือในบัญชีให้รวดเร็วที่สุด
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร!?
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การยื่นเรื่องกับสถาบันทางการเงินเพื่อรับสินเชื่อก้อนใหม่มาใช้ในการทดแทนสินเชื่อเดิม หรือการนำบ้านที่อยู่ในระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่ออยู่ไปใช้เป็นหลักประกัน เพื่อทำการขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง หากได้รับการอนุมัติผู้ขอกู้ก็จะได้รับเงินก้อนเพื่อนำไปใช้ในการปิดสินเชื่อเดิม เพื่อย้ายไปเป็นลูกหนี้กับสถาบันทางการเงินแห่งใหม่
ข้อดีของการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
ส่วนใหญ่แล้วการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นเพราะต้องการที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกลงมากกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องมีภาระในการจ่ายคืนรายเดือนให้กับสถาบันทางการเงินมาก ช่วยให้การลดต้นลดดอกเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ในบางครั้งอาจเป็นหนทางในการได้รับเงินก้อนในกรณีที่มีความจำเป็นฉุกเฉินอีกด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี เพราะไม่ต้องเสียค่าปรับให้กับทางธนาคาร
ติดเครดิตบูโรรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม ชาว Pantip มีคำตอบ!
สมาชิก Pantip : 7635239
สมาชิก Pantip :
รีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คบูโรคืออะไร!?
รีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คบูโร เป็นมายาคติที่ผู้ขอกู้สินเชื่อมักที่จะกล่าวถึงกันบ่อยครั้ง เพราะเป็นความหวังสำหรับคนที่มีภาระหนี้มาเป็นทุนเดิทอยุ่แล้ว แต่อยากที่จะทำการขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแล้วกลัวว่าทางสถาบันทางการเงินจะไม่ทำการอนุมัติเนื่องจากมีภาระหนี้มากจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกสถาบันทางการเงินในประเทศไทยมีการทำการเช็คเครดิตบูโรทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเครดิตบูโรนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการองค์ประกอบสำหรับการตัดสินใจเท่านั้น ดังนั้น หลายคนที่มีภาระหนี้มาก หรือมีเครดิตบูโรที่ไม่ค่อยดีนักก็มีโอกาสที่จะขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านผ่านได้เช่นกัน
ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี ได้ไหม!?
สถาบันทางการเงินและธนาคารส่วนใหญ่มักจะมีข้อกำหนดเอาไว้ว่าจะทำการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านต้องรอให้ครบเวลากำหนด 3 ปี เสียก่อน ไม่เช่นนั้นต้องเสีย “ค่าปรับ” ให้กับสถาบันทางการเงิน ตามที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา แต่ในบางครั้งในสัญญาอาจจะกำหนดระยะเวลาในการรีไฟแนนซ์เอาไว้มากถึง 5-7 ปี เลยทีเดียว ดังนั้น ควรทำการตรวจสอบระยะเวลาในการรีไฟแนนซ์ให้ดีเสียก่อนว่าเป็น 3 ปี จริงๆ ไม่เช่นนั้น อาจจะกลายมาเป็นปัญหาหาคาราคาซังที่ชวนปวดหัวในอนาคตได้
ขั้นตอนขอยื่นเรื่องขอทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีปัญหา
สำหรับคนที่ต้องการทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ผ่านสถาบันทางการเงินใหม่ มีขั้นตอนแนะนำดังต่อไปนี้
1.ติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้เงินกู้กับสถาบันทางเงินเดิม (*อาจมีค่าใช้จ่าย)
2.นำเอกสารสรุปหนี้ไปยื่นเรื่องเพื่อขอทำการกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินใหม่ (*ใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกัน)
3.สถาบันทางการเงินส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักค้ำประกัน
4.เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ให้ติดต่อไปยังสถาบันทางการเงินเดิมเพื่อนทำการไถ่ถอนตามขั้นตอน และแจ้งยอดหนี้เงินต้นกับดอกเบี้ยให้กับสถาบันทางการเงินใหม่
5.ติดต่อสถาบันทางการเงินใหม่เพื่อนัดหมายทำการสัญญา+โอนหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ในการค้ำประกัน ในวันเดียวกับที่นัดหมายสถาบันทางการเงินเดิมเอาไว้
6.เริ่มขั้นตอนการโอน ณ สำนักงานที่ดินหรือสาขา ในกรณีที่ยอดกู้สูงมากกว่ายอดการไถ่ถอน สถาบันทางการเงินใหม่จะทำการออกเช็คให้2 ฉบับ เพื่อจ่ายหนี้กับธนาคารเก่าและมอบให้กับผู้ขอกู้ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมบริการต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการมอบโฉนดที่ดินที่ได้รับจากสำนักงานที่ดินให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่
ติดแบล็คลิส รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม!?
คำตอบคือ "มีโอกาสที่จะสามารถทำได้" เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น เครดิตบูโร หรือ แบล็กลิส เป็นหนึ่งในองค์ประกอบในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้มีข้อกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่าติดแบล็คลิส รีไฟแนนซ์บ้านได้หรือเปล่า!? อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่อยากทำการรีไฟแนนซ์บ้านแล้วพบว่าตัวเองกำลังติดแบล็กลิสต์ ขอแนะนำให้ทำการเคลียร์ประวัติที่ไม่ดีให้เรียบร้อย เพื่อให้สามารถที่จะกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อยากขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. ติดปัญาหาบูโร แต่ปิดหมดแล้วมีขั้นตอนอย่างไร ชาว Pantip มีคำตอบ!
นอกจากโอนชื่อบ้านหลังนี้เป็นชื่อภรรยาให้เสร็จ แล้วรีไฟแนนซ์ได้ ถ้าภรรยารายได้กับภาระหนี้ผ่านเกณฑ์และไม่ติดบูโร
บ้านหลังนี้หมดภาระไปแล้วหลังจากซื้อมาแต่ตอนนี้ติดจำนองสินเชื่อกับธ.สีส้มอยุ่.....ถ้ารีไฟแนนซ์ จะได้ดอกเบี้ยบ้านรีไฟแนนซ์อเนกประสงค์นะครับ
จะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ซึ่งดอกเบี้ยประมาณ 6-7% ต่อปี
สมาชิก Pantip อยากขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. ติดปัญาหาบูโร แต่ปิดหมดแล้ว : 3726864
2. อายุผู้กู้เกิน50ก็ลำบาก บางที่55ถ้าไม่ใช่ราชการไม่ได้เลย ธนาคารเค้าไม่มีทางแน่ใจว่าคุณจะหมดแรงทำงานก่อนหนี้หมดมั้ย
3. ธนาคารสีเหลือง ช่วงนี้ยากครับ รายได้คุณยังไม่ถึงเกณฑ์เค้า
4. ถ้าการรีไฟแนนซ์มากขนาดต้องกู้ส่วนต่างมารี รอนิ่งๆก่อนครับ กลับไปคุณกับแบงค์เดิม ขอลดดอกเบี้ยลงให้มากที่สุด ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องเครดิต ขอปรับโครงสร้างหนี้เลยครับ
อยากขอรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. ติดปัญาหาบูโร ทางเจ้าหน้าที่สินเชื่อมีประเด็นน่าสนใจมาฝาก
สำหรับคนที่มีปัญหาเครดิต และต้องการที่จะทำการขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ธอส. ก่อนอื่นต้องมีประวัติของเครดิตที่เป็นปกติเสียก่อน นอกจากนี้ถ้าหากยังอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีจะไม่สามารถทำการขอสินนเชื่อกับทางธนาคารได้เนืองจากไม่เป็นผลดีในการพิจารณาสินเชื่อ สำหรับในกรณีที่ได้ทำการผปิดบัญชีหนี้เป็นที่เรียบร้อบแล้ว ขอแนะนำให้ทำการตรวจสอบเครดิตเสียก่อน จากนั้นค่อยนำเอกสารดังกล่าวมายืนยันการปิดบัญชีหนี้ โดยปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่สาขาใกล้บ้าน เพื่อประกอบการพิจารณาประเภทของเครดิต (*ถ้าหากเป็นสินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคล ต้องทำการปิดหนี้ไปแล้วอย่างน้อย 12 เดือน)
บทสรุปส่งท้าย: ตรวจเช็คเครดิตบูโรพบปัญหาไม่ต้องกังวลใจ แก้ได้หายห่วง!!!
ถ้าหากใครทำการตรวจเช็ค...
แล้วพบว่าประวัติเครดิตบูโรของตัวเองมีปัญหาก็ไม่ต้องกังวลใจจนเกินไปนัก เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถทำการแก้ไขได้ไม่ยาก
ขอเพียงแค่ปฎิบัติตัวตามขั้นตอนที่ได้แนะนำกันไปแล้วในตอนต้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขอทำการกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อช่วยลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลงได้อย่างที่ต้องการกันได้อย่างแน่นอน...
![รวมกระทู้เด็ด Pantip [2564-2565] ทำกับบริษัทประกันภัยไหน ดีที่สุด!?](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2021/09/john-schnobrich-2FPjlAyMQTA-unsplash-150x150.jpg)
