8 สินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance) ปิดบัตรเครดิต ดอกเบี้ยต่ำ ข้อเสนอยั่วใจประจำ 2563-2564

กำลังมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance) ปิดบัตรเครดิตพร้อมข้อเสนอดีๆในปี 2563-2564 อยู่หรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ

 

 สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหา “หนี้บัตรเครดิต” ...

ที่เพิ่มพูนมากขึ้น จนรู้สึกว่าไม่สามารถรับภาระของอัตราดอกเบี้ยที่มากจนเกินทน

การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิตเป็นหนึ่งในวิธีการที่น่าสนใจในการช่วยจัดการกับปัญหานี้ ด้วยการนำเงินก้อนจากสถาบันทางการเงินใหม่มาโปะ! กับหนี้เก่าให้หมดแล้วค่อยย้ายไปผ่อนชำระคืนให้กับที่ใหม่ที่มีขอเสนอเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจกว่า

แต่หลายคนอาจยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกสถาบันทางการเงินไหนดี!? เชื่อว่าหลังจากที่ได้อ่านบทความชิ้นนี้จะได้รับคำตอบอย่างแน่นอน...

 

 

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต (Refinance) คืออะไร!? สำคัญอย่างไรในปี 2563-2564

 

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต (Refinance) คือ การขอสินเชทจากสถาบันทางการเงินเดิมหรือสถาบันทางการเงินใหม่ เพื่อนำเงินก้อนที่ได้รับการอนุมัติมาทำการชำระหนี้บัตรเครดิตจากสถาบันทางการเงินเก่า โดนสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่ได้รับมานั้นจะมีอัตราของดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิมนั่นเอง ขั้นตอนนี้มักถูกเรียกว่า "การปรับโครงสร้างหนี้ใหม่" หรือ การ "โปะหนี้บัตรเครดิต"

 

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

 

• การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ช่วยให้ได่รับเงินก่อนเพื่อนำไปใช้ชำระหนี้เดิม
• การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระคืนให้กับสถาบันการเงินเดิมได้เป็นอย่างดี
• การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต อัตราของดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม
• การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นสินเชื่อที่มีอัตราของดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
• การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ช่วยให้จัดระเบียบวางแผนทางการเงินใหม่อีกครั้ง

 

สินเชื่อปิดบัตรเครดิต  เหมาะกับใครบ้าง!? 

 

บัตรเครดิตมีประโยชน์มากมายหลายประการ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับข้อเสียร้ายแรงจากเป็น "หนี้โดยไม่ทันรู้ตัว" ยิ่งใช้จ่ายเกินตัวมากเท่าไหร่ และชำระหนี้ที่เกิดขึ้นมาล่าช้ามาแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิตสะสมได้อย่างง่ายดายมากขึ้น บางคนปัญหานี้อาจเรื้อรังจนไม่สามารถแก้ปมออกได้เลยทีเดียว ดังนั้น สินเชื่อปิดบัตรเครดิต จึงเป็นหนึ่งในทางออกที่เรียกได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาหนี้สินรัดตัว เพราะสินเชื่อปิดบัตรเครดิตสามารถที่จะช่วยจัดการโปะหนี้บัตรเครดิตให้หมดไปและช่วยให้วางแผนการเงินใหม่ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

ทุกคนสามารถทำการรีไฟแนนซ์ ปิดบัตรเครดิตได้หรือเปล่า!?

การรีไฟแนนซ์ ปิดบัตรเครดิต เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้ ขอเพียงแค่มีคุณสมบั้ตขั้นต่ำที่ทางสถาบันทางการเงินได้กำหนดเอาไว้ หากคุณสมบัติผ่านโดยทั่วไปแล้วการรีไฟแนนซ์ ปิดบัตรเครดิตก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก และยังเป็นทางออกที่ดีของปัญหาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

การโอนรวมหนี้บัตรเครดิต เพื่อทำการรีไฟแนนซ์มีข้อดีอะไรบ้าง!?

 

1.โอนรวมหนี้บัตรเครดิต ช่วยลดดอกเบี้ยให้น้อยลง

2.โอนรวมหนี้บัตรเครดิต ช่วยเพิ่มระดับของสุขภาพจิตให้ดีขึ้น ความเครียดลดน้อยลง

3.โอนรวมหนี้บัตรเครดิต ช่วยรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ทำให้การวางแผนจัดการปัญหาเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

4.โอนรวมหนี้บัตรเครดิต เพิ่มประวัติเครดิตการชำระเงินให้สูงขึ้น เพราะสถาบันทางการเงินเล็งเห็นในความพยายามชำระหนี้

 

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต รู้ก่อนรับรองช่วยให้อนุมัติผ่านรวดเร็วกว่าเดิม!

 

• ก่อนอื่นต้องทำกาประเมินภาระหนี้บัตรเครดิตของตัวเองทั้งหมด
• ตั้งวงเงินสินเชื่อที่ต้องการได้รับจากธนาคาหรือสถาบันทางการเงิน
• มองหาธนาคารที่เหมาะสม มอบสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจในการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่เหมาะสมที่สุด

 

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารหรือสถาบันการเงินไหนดี เลือกอย่างไรให้โดนใจ!?

 

• เลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มอบอัตราของดอกเบี้ยที่ถูกมากที่สุด
• เลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนานมากที่สุด
• เลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

 

รวม 8 สถาบันและธนาคารที่เปิดให้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต ในปี 2563-2564 พร้อมข้อเสนอที่น่าสนใจ! ธนาคารไหนดีมารู้จักกัน

 

1.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563-2564 ธนาคารไหนดี!?: สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคาร Citi (Citi Personal Loan)

 

 

 

จุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคาร Citi (Citi Personal Loan)

 

• สินเชื่ออเนกประสงค์ ที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
• กู้ง่าย อนุมัติเงินก้อนรวดเร็วทันใจ
• อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
• ขั้นตอนการสมัครแสนง่ายดาย
• อัตราดอกเบี้ยต่ำ แบบลดต้นลดดอก
• ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เมื่อต้องการใช้เงินสดฉุกเฉิน
• ผ่อนสบาย นานสูงสุด 60 เดือน

 

อัตราของดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินของสินเชื่อส่วนบุคคล Citi

 

ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินของสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคาร Citi (Citi Personal Loan) เป็นแบบลดต้นลดดอก โดยมีอัตราของดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 13.99 -25 % ต่อปี

 

คุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล Citi

 

• สัญชาติไทย
• อายุ 21 ปี ขึ้นไป และเมื่อรวมกับระยะเวลาในการผ่อนชำระต้องไม่เกิน 60 ปี
• รายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป
• พนักงานบริษัท ต้องมีอายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
• เจ้าของกิจการ ต้องดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันอย่างน้อย 2 ปี
• ผู้กู้รายใหม่ที่ไม่เคยทำการกู้เงินสินเชื่อกับบริษัทฯ ก่อนวันที่ 1 ก.ย. 2560 และมีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท ต่อเดือน จะต้องมีการกู้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรรกดเงินสดหรืออยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินอื่นไม่เกิน 3 แห่ง ภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนทำการยื่นขอกู้ Citi Personal Loan (*ในกรณีนี้ จำนวนการอนุมัติวงเงินสูงสุด 1.5 เท่า ของรายได้ต่อเดือน และผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่า ของรายได้ ต่อเดือน)

 

เอกสารประกอบการพิจารณาของสินเชื่อส่วนบุคคล Citi

 

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน
• สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรก และสำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
• *กรณีเจ้าของกิจการ ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด

 

2.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563-2564 ธนาคารไหนดี!?: สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคาร UOB : UOB I-Cash

 

 

 

จุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคาร UOB : UOB I-Cash

 

• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash อนุมัติวงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash แบ่งผ่อนชำระยาวนานถึง 60 เดือน
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash ผ่อนชำระคงที่ จำนวนเท่ากันทุกเดือน
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash อนุมัติรวดเร็ว ทราบผลใน 3 วัน
• สินเชื่อส่วนบุคคล UOB I-Cash ยกเลิกวงเงินได้ภายใน 7 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

3.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563-2564 ธนาคารไหนดี!?: ธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

จุดเด่นของสินเชื่อรถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

• วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 ล้านบาท
• ผ่อนชำระได้อย่างยาวนานสูงสุด 84 งวด
• อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.55% (*38% ต่อเดือน)
• สมัครง่าย ทราบผลอนุมัติรวดเร็วภายใน 5-7 วัน
• สามารถนำรถยนต์ไปใช้งานได้ตามปกติ
• ผ่อนสบายเริ่มต้นแสนละ 58 บาท ต่อวัน
• หมดกังวลในเรื่องแผนผ่อนชำระ กับจัดสรรให้สอดคล้องกับสภาพคล่องอย่างลงตัว

เงื่อนไขในการขอสินเชื่อรถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

• เฉพาะรถยนต์จากสถาบันทางการเงินที่กำหนด (*เฉพาะมีการโอนเล่ม)
• อายุของรถยนต์ต้องไม่เกิน 15 ปี
• รถยนต์ที่ไม่สามารถขอทำการรีไฟแนนซ์ได้ อาทิเช่น ยี่ห้อ Chrysler, Daewoo, Fiat, Peugeot, MG
• รถยนต์จะต้องทำการจดทะเบียนส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่รับรถยนต์รับจ้างหรือรถยนต์ที่จดทะเบียนในนามของนิติบุคคล
• ไม่รับรถยนต์ดัดแปลง
• ไม่รับรถยนต์นำเข้า

สถาบันทางการเงินที่รับรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

• ธนาคารธนชาต
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• ธนาคารเกียรตินาคิน
• ธนาคารทิสโก้
• กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง
• ลีสซิ่งกสิกรไทย
• เงินติดล้อ
• โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)
• ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)
• นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)
• อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส
• ตรีเพชร อีซูซุลีสซิ่ง
• ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย)

คุณสมบัติในการสมัครสินเชื่อรถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

• อายุระหว่าง 20-60 ปี (*เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนต้องไม่เกิน 65 ปี)
• เงินเดือน 10,000 บาท ขึ้นไป
• พนักงานประจำหรือพนักงานชั่วคราว
• ในกรณีที่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องเป็นคนไทยและมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
• ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาในประเทศไทย

เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อรถยนต์กับธนาคารไทยพาณิชย์ รถคือเงิน My Car My Cash

• สำเนาบัตรประชาชนจำนวน 5 ชุด
• สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 5 ชุด
• สลิปเงินเดือนล่าสุด
• หนังสือรับรองเงินเดือน (*ถ้ามี)
• หน้าสมุดบัญชีธนาคารสำหรับใช้ในการโอนสินเชื่อ จำนวน 1 ชุด
• สำเนาทะเบียนรถยนต์ (*กรณีรถยังไม่ปลอดภาระหนี้) จำนวน 1 ชุด
• เล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง (*กรณีปลอดภาระหนี้)
• รายการเดินบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน

 

4.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563 ธนาคารไหนดี!?: สินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช

จุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช

• เหมาะกับพนักงานประจำที่มีรายได้ 20,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
• ผ่อนจ่ายรายเดือนน้อย
• ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน
• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
• ช่องทางในการรับชำระคืนที่หลากหลาย สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง
• อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
• สะดวกรวดเร็ว พร้อมโอนสินเชื่อวงเงินที่ได้รับอนุมัติเข้าบัญชีเงินฝากที่แจ้ง

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช

สำหรับอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคชจะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือพนักงานประจำและเจ้าของกิจการ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช : พนักงานประจำ

ดอกเบี้ยสำหรับพนักงานประจำ	อายุสัญญา	รายได้ต่อเดือน	ช่องทางให้บริการ
9 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 12 เดือน	20,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
11.84 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 24 เดือน	30,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
12 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 24 เดือน	20,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
13.33 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 36 เดือน	50,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
15 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 36 เดือน	30,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
18 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 60 เดือน	20,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา
20-28 % ต่อปี	ตลอดอายุสัญญา = 60 เดือน	15,000 บาท	สมัครออนไลน์ หรือสาขา

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช : เจ้าของกิจการ

ดอกเบี้ยสำหรับเจ้าของกิจการ	อายุสัญญา	รายได้ต่อเดือน	ช่องทางให้บริการ
25-26 % ต่อปี	อายุสัญญาสูงสุด 60 เดือน	30,000 บาท	สมัครที่สาขา

 

วงเงินอนุมัติสินเชื่อของสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช

สินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช ให้การอนุมัติวงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท สำหรับพนักงานประจำและสูงสุด 1 ล้านบาท สำหรับเจ้าของกิจการ

 

ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนให้กับสินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช

สินเชื่อส่วนบุคคล Cimb เพอร์ชัลนัลแคช ให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนยาวนาน สูงสุดถึง 60 เดือนเลยทีเดียว

 

5.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563-2564 ธนาคารไหนดี!?: ธนาคารกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช

 

จุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช

 

• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ให้การอนุมัติวงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินของธนาคารกรุงศรี
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน (*เฉพาะผู้สมัครชาวไทย)
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ผ่อนชำระได้อย่างยาวนานตั้งแต่ 12-84 เดือน
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.27% ต่อเดือน
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ผู้สมัครสามารถนำรถยนต์ไปใช้งานได้เหมือนปกติ
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช รับรถยนต์อายุใช้งานนานสูงสุด 15 ปี
• สินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช เลือกได้ทั้งแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอกและแบบดอกเบี้ยคงที่

 

อยากสมัครสินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช ต้องเตรียมอะไรบ้าง!?

 

ก่อนที่จะทำการสมัครใช้บริการสินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช จำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติและเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการประกอบการสมัคร ดังต่อไปนี้

1.คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการสมัครสินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช

 

• อายุระหว่าง 20-65 ปี (*ณ วันทำสัญญา)
• ครอบครองรถยนต์เป็นของตัวเอง
• มีสถานที่พำนักอย่างเป็นหลักแหล่งในประเทศไทย
• กรณีชาวต่างชาติต้องทำการยื่นสำเนาเอกสารหนังสือเดินทาง เอกสารอนุญาตการทำงานในประเทศไทยที่มีอายุมากกว่า 3 เดือนและคงเหลือมากกว่า 6 เดือน

2.เอกสารสำคัญในการสมัครใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรี คาร์ฟอร์แคช

 

• บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาจำนวน 2 ฉบับ
• ทะเบียนบ้านฉบับจริง พร้อมสำเนา 2 ฉบับ
• สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้ฉบับล่าสุด หรือย้อนหลังไม่เกิน 6 เดือน
• แผนที่ตั้งที่อยู่ และที่ทำงาน
• สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกของธนาคารที่ต้องการรับเงินโอนเข้าเมื่อได้รับการอนุมัติ
• เล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง

 

วงเงินอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรี คาร์ฟอร์แคชขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรกันบ้าง

 

การขออนุมัติสินเชื่อรถกรุงศรี คาร์ฟอร์แคชนั้น ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้สงวนสิทธิ์ในการกำหนดวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระแลผู้ค้ำประกัน โดยพิจารณาจากข้อกำหนดดังต่อไปนี้

1.ยี่ห้อของรถยนต์

2.รุ่นของรถยนต์

3.ปีในการจดทะเบียนรถยนต์

4.รายได้ และสถานภาพของผู้สมัคร ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร

 

6.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563 ธนาคารไหนดี!?: สินเชื่อหมุนเวียน iFIN

 

 

สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารกรุงศรี เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาดทั้งในเรื่องของการสมัครที่ง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลค้ำประกัน แถมยังมีระยะเวลาในการผ่อนจ่ายที่ยาวนานสูงสุดถึง 60 เดือน ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี เอาล่ะ! ไปทำความรู้จักกับสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารกรุงศรี กันเลยว่ามีเรื่องอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง!?

 

จุดเด่นของสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลกรุงศรี

 

1.สมัครง่าย รู้ผลอนุมัติรวดเร็ว

2.ดอกเบี้ยต่ำแบบลดต้นลดดอก

3.มีวงเงินให้พร้อมใช้ตลอดเวลา

4.ผ่อนชำระคืนนานสูงสุด 60 เดือน

5.ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน

6.อัตราดอกเบี้ยพิเศษ

-พนักงานที่รายได้ประจำ  ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ3 เดือนแรกเพียง 9.99%  (*เฉพาะพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรี)

-พนักงานที่มีรายได้ประจำ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 12 เดือนแรก 10.99% (*เฉพาะพนักงานที่มีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด)

-เจ้าของกิจการ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 12 เดือนแรก 12.99% (*เฉพาะเจ้าของกิจการที่มีคุณสมบัติตามที่ทางธนาคารกำหนด)

 

วงเงินอนุมัติของสินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลกรุงศรี

 

สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลกรุงศรีอนุมัติวงเงิน 3 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

การผ่อนชำระของสินเชื่อส่วนบุคคลกรุงศรี

 

การผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเพียง 3% ของยอดเงินค้นคงค้างบวกกับดอกเบี้ย หรือไม่ต่ำกว่า 500 บาท โดยการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยมีอัตราดอกเบี้ยดังต่อไปนี้

• เงินต้นส่วนที่น้อยกว่า 60,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 28% ต่อปี
• เงินต้นตั้งแต่ 60,000 – 99,999 บาท อัตราดอกเบี้ย 26% ต่อปี
• เงินต้นตั้งแต่ 100,000 – 300,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
• เงินต้นตั้งแต่ 300,000 บาท ขึ้นไปอัตราดอกเบี้ย 22.99% ต่อปี

 

 

7.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563 ธนาคารไหนดี!?: สินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan ธนาคารไทยพาณิชย์

 

จุดเด่นที่น่าสนใจขอสินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan

 

• สมัครง่าย
• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน
• รู้ผลอนุมัติรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
• เลือกจำนวนที่ผ่อนชำระและเลือกวันที่ต้องการผ่อนชำระได้ด้วยตัวเอง
• อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

 

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan

 

อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างร้อยละ 10 – 25.00 ต่อปี

วงเงินอนุมัติของสินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan

 

วงเงินในการอนุมัติตั้งแต่ 5,000 – 2,000,000 บาท

ระยะเวลาในการผ่อนชำระของสินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan

 

ผ่อนชำระได้อย่างยาวนานรายเดือนสูงสุด 60 งวด และจ่ายแบบรายสัปดาห์ 130 งวด

8.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิต 2563 ธนาคารไหนดี!? : สินเชื่อบัวหลวงสุขใจ ธนาคารกรุงเทพ

 

จุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อบัวหลวงสุขใจ

 

• เงินกู้อเนกประสงค์ สำหรับพนักงานประจำที่รับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงเทพ
• เบิกรับเงินเต็มจำนวนหลังการอนุมัติ โอนเงินเข้าบัญชีแบบทันใจ
• สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบัวหลวงสุขใจ

 

วงเงินกู้ / บาท	อัตราดอกเบี้ย / ปี
ไม่เกิน 30,000 บาท	24%
30,000 – 100,000 บาท	22%
100,000 – 200,000 บาท	20%
200,001 – 300,000 บาท	18%
300,000 บาท ขึ้นไป	16%

 

วงเงินในการอนุมัติของสินเชื่อบัวหลวงสุขใจ

 

วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ไม่เกิน 1 ล้านบาท

ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนของสินเชื่อบัวหลวงสุขใจ

 

ผ่อนชำระคืนยาวนานสูงสุด 60 เดือน สามารถเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนเองได้และชำระคืนในยอดเงินเท่ากันเป็นประจำทุกเดือน

 

บทสรุปส่งท้าย : รวม 3 เทคนิคที่จะช่วยให้ไม่ต้องทนเป็นหนี้รีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิตในปี 2563-2564

 

วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับหนี้บัตรเครดิต จนไม่ต้องไปทำการรีไฟแนนซ์ปิดบัตรเครดิตให้วุ่นวายใจคือ “การไม่สร้างหนี้” นั่นเอง ถ้าหากใครไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิตที่พอกพูนจนรับมือไม่ไหวในปี 2563 ขอแนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.ไม่อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตในปี 2563-2564: ผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตในจำนวนที่มากกว่าขั้นต่ำ

 

การพยายามผ่อนชำระหนี้ของบัตรเครดิตในจำนวนที่มากกว่า “ขั้นต่ำ” ที่ทางสถาบันทางการเงินและธนาคารกำหนดเอาไว้ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาหนี้สินเพิ่มพูนอย่างไม่รู้จบที่เกิดขึ้นจากเงินต้นที่ไม่ได้ลดลง ทำให้ดอกเบี้ยยังคงสูงเช่นเดิม

2.ไม่อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตในปี 2563-2564: หลีกเลี่ยงการกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้จ่าย

 

การกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้จ่ายควรใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นมากที่สุดเท่านั้น เพราะดอกเบี้ยของการกดเงินสดนั้น สูงกว่าการใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายชำระค่าสินค้าและบริการเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

3.ไม่อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตในปี 2563-2564: ไม่ควรนำเงินสดจากบัตรเครดิตใบหนึ่งมาจ่ายโปะหนี้ของบัตรอีกใบ

 

หลายคนชอบใช้วิธีการชะลอหนี้นี้ ด้วยการนำเงินสดจากบัตรใบหนึ่งไปโปะอีกใบหนึ่งเอาไว้ก่อน แต่ที่จริงแล้วการทำเช่นนั้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และยังทำให้เกิดปัญหาหนี้สินจากบัตรเครดิตที่ไม่รู้จักจบสิ้นอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากไม่อยากเป็นหนี้ ขอแนะนำให้ทำการวางแผนใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสมจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้มากกว่านั่นเอง...