Contents
- 1 อยากทำประกันสุขภาพ แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าแบบเหมาจ่ายกับแยกรักษาอันไหนคุ้มค่ากว่า!?
- 2 มาทำความรู้จักกับประกันสุขภาพก่อนว่าคืออะไร!?
- 3 รู้หรือเปล่าว่าประกันสุขภาพช่วยลดหย่อนภาษีได้!?
- 4 ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายคืออะไร!?
- 5 จุดเด่นของประกันแบบเหมาจ่าย
- 6 จุดด้อยของประกันแบบเหมาจ่าย
- 7 ประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษาคืออะไร!? ตัวนี้มีดีแค่ไหน!?
- 8 จุดเด่นของประกันแบบแยกค่ารักษา
- 9 จุดด้อยของประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษา
- 10 บทสรุปส่งท้าย : ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายกับแยกรักษาอันไหนดีกว่ากัน!?
อยากทำประกันสุขภาพ แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าแบบเหมาจ่ายกับแยกรักษาอันไหนคุ้มค่ากว่า!?
การวางแผนทำประกันสุขภาพ... เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก เพราะถึงแม้ ณ ปัจจุบัน สุขภาพร่างกายจะแข็งแรงสมบูรณ์แต่ในอนาคตอันใกล้หรือไกล ก็ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาโรคร้ายขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น บทความในวันนี้จึงอยากขอพาไปทำการเปรียบเทียบประกันสุขภาพแบบ “เหมาจ่าย” กับ “แยกรักษา” ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรและแบบไหน ที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุดกัน!?
มาทำความรู้จักกับประกันสุขภาพก่อนว่าคืออะไร!?
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ให้คำจำกัดความหมายของการประกันสุขภาพเอาไว้ว่า “เป็นการประกันภัย ที่บริษัทประกันภัยตกลงจะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จากการเจ็บป่วยจากโรคภัยหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้แก่ผู้เอาประกัน”
รู้หรือเปล่าว่าประกันสุขภาพช่วยลดหย่อนภาษีได้!?
ประกันสุขภาพหลายแผนสามารถช่วยให้ผู้ซื้อประกันได้รับการลดหย่อนภาษีได้ด้วย เงินได้บุคคลธรรมดาในช่วงปลายปี ทำให้มีโอกาสได้รับภาษีคืนต่อปีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร ในขณะเดียวกันก็ยังได้รับสิทธิ์ในการคุ้มครองด้านสุขภาพอีกด้วย ทำให้การทำประกันนั้น เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายคืออะไร!?
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คือ ประกันที่มีการแยกค่ารักษาเอาไว้ เช่น ค่าห้อง เป็นต้น แต่ความแตกต่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมาจากประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษาอย่างชัดเจนคือ มีการกำหนดวงเงินแบบ “เหมาจ่าย” เอาไว้ในแต่ละรอบปีของกรมธรรม์ โดยจะมีวงเงินสูงสุดที่สามารถทำการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ว่าไม่เกินเท่าไหร่ต่อปี หลายบริษัทอาจให้วงเงินในส่วนนี้มากถึงหลักล้านหรือสิบล้านกันเลยทีเดียว ข้อดีคือ สามารถที่จะเบิกเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินมาจากการแยกจ่ายตามปกติ และยังมีการเพิ่มรายการค่ารักษาพยาบาลบางอย่างที่ประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษาไม่มีเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย
จุดเด่นของประกันแบบเหมาจ่าย
- วงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาต่อปีที่ค่อนข้างสูง
- ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลตามจริงได้มากกว่าแบบแยกจ่ายค่ารักษา
- รายการคุ้มครองหลายรายการมากกว่าประกันแบบแยกค่ารักษา
จุดด้อยของประกันแบบเหมาจ่าย
- ค่าเบี้ยประกันต่อปีค่อนข้างสูง
ประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษาคืออะไร!? ตัวนี้มีดีแค่ไหน!?
ประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษา ทางบริษัทประกันจะทำการกำหนดข้อคุ้มครองออกมาเป็นค่ารักษาพยาบาลต่างๆ และกำหนดความคุ้มครองในแต่ละรายการของการรักษาออกมาเป็นจำนวนเงินที่ตายตัว เช่น ค่าห้องต่อวัน ค่าผ่าตัดต่อครั้ง เป็นต้น โดยจะสามารถทำการเคลมค่ารักษาพยาบาลได้เฉพาะในรายการที่กำหนดไม่เกินจำนวนวงเงินที่กำหนดเอาไว้ และถ้าหากมีส่วนต่างเกินเกิดขึ้น ผู้รักษาพยาบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนั้นด้วยตัวเอง
จุดเด่นของประกันแบบแยกค่ารักษา
- ไม่มีการกำหนดวงเงินสูงสุดต่อปี เหมาะกับคนที่ป่วยเป็นหลายโรค หรือโรคเดียวกันแต่หลายครั้ง (*เจ็บป่วยต้องห่างกัน 90 วัน) สามารถเบิกเคลมค่ารักษาได้หลายครั้ง
- ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าแบบเหมาจ่าย เหมาะกับคนงบไม่มากนัก
จุดด้อยของประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษา
- วงเงินคุ้มครองในแต่ละรายการไม่สูงมาก อาจทำให้ไม่ค่อยครอบคลุมค่ารักษาที่เกิดขึ้นจริง
- อาจต้องจ่ายส่วนต่างของค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง
- เบิกรายการคุ้มครองได้น้อยกว่าแบบเหมา
บทสรุปส่งท้าย : ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายกับแยกรักษาอันไหนดีกว่ากัน!?
ประกันสุขภาพทั้งแบบเหมาจ่ายและแยกรักษา... ล้วนแล้วแต่มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรทำการศึกษารายละเอียดจากข้อมูลในข้างต้นให้ครบถ้วนก่อนว่าแบบไหนที่เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมความต้องการที่สุดนั่นเอง...