แนะนำ 3 กองทุนที่ช่วยหักภาษีได้สูงสุด
- กองทุน SSF หักภาษีได้ 30% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุน RMF หักภาษีได้ 30 % ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
- กองทุน SSFX หักภาษีเพิ่มเติมจากการซื้อกองทุน SSF และ RMF ได้อีกสูงสุด 200,000 บาท
- กองทุน SSF และ RMF เมื่อทำการลงทุนรวมกันแล้วสามารถหักภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท
Contents
อยากซื้อกองทุน เพื่อใช้ในการหักภาษีเลือก SSF / RMF และ SSFX อันไหนคุ้มค่ามากที่สุด?
สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ “กองทุน” อาจเป็นหนึ่งในวิธีของการกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้รับเงินตอบแทนอย่างง่ายดายและสม่ำเสมอ แต่สำหรับคนทั่วไปอีกจำนวนไม่น้อยกลับมองเห็นโอกาสที่น่าสนใจว่ากองทุนได้มอบโอกาสในการ “หักภาษี” รายได้บุคคลประจำปีได้ด้วยเช่นกัน ทำให้หลายคนเลือกที่จะทำการลงทุนกับกองทุนเพื่อรับสิทธิในการหักภาษี
ถ้าหากใครกำลังมองหาวิธีการหักภาษีด้วยการซื้อกองทุน อยากแนะนำให้รู้จักกับ z สามกองทุนที่เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนแต่ละกองทุนจะมอบสิทธิประโยชน์ในการหักภาษีให้มากน้อยเพียงใด มีอะไรที่น่าสนใจที่สุดนั้น มาลองคติดตามอ่านจากบทความชิ้นนี้กันเลย
กองทุน SSF คืออะไร หักภาษีได้เท่าไหร่?
กองทุน SSF หรือ Super Saving Fund คือ “กองทุนรวมเพื่อการออม” มีลักษณะเป็นกองทุนสะสมและได้รับสิทธิในการหักภาษี สำหรับกองทุน SSF มีการเปิดให้ซื้อกันตลอดทั้งปี โดยจะต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ลงทุนกับหลักทรัพย์ทุกประเภททั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ (ไม่กไหนดขั้นต่ำในการซื้อ)
- ต้องลงทุนต้องถือหน่วยการลงทุนเอาไว้อย่างน้อย 10 ปี เต็ม (*นับแบบวันชนวัน)
- ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี รับสิทธิหักภาษีในปีที่ซื้อ (*ระหว่างปี 2563-2567)
- ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้พึงประเมิน (*ไม่เกิน 200,000 บาท) เมื่อรวม RMF+SSF+กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ+กบข.+กอช.+ประกันบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุน RMF คืออะไร หักภาษีได้เท่าไหร่?
กองทุน RMF หรือ Retiremant Mutual Fund คือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นกองทุรวมที่เน้นในเรื่องของการ “ออมเงินในระยะยาว” สำหรับใช้จ่ายในตอนที่ทำการเกษียณอายุ สำหรับกองทุน RMF มีการเปิดให้ทำการซื้อตลอดทั้งปี โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ลงทุนกับสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อ
- ถือครองอย่างน้อย 5 ปี และต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปี
- ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี เว้นว่างได้ไม่เกิน 1 ปี
- หักภาษีได้ในปีที่มีการลงทุน (*ไม่เกิน 500,000 บาท) เมื่อรวม RMF+SSF+กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ+กบข.+กอช.+ประกันบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
![ลงทุนกับกองทุนรวมอเบอร์ดีนดีไหม? วิเคราะห์แบบเข้าใจง่ายใน [5 นาที!]](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2022/07/9-200x200.jpg)
กองทุน SSFX คืออะไร หักภาษีได้เท่าไหร่?
กองทุน SSFX หรือ SSF Extra คือ กองทุนเพื่อการออมที่ได้มีการปรับกฎเกณฑ์ให้มีความคล้ายคลึงกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นกองทุนพิเศษที่มีกำหนดระยะเวลาในการซื้อขายในระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2563 เท่านั้น ไม่ได้เป็นการลงทุนที่เปิดให้ซื้อได้ตลอดทั้งปีเหมือนกับกองทุนทั้งสองประเภทในข้างต้น โดยมีเงื่อนไขที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
- ต้องลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสนธิ
- ต้องซื้อกองทุนในระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2563 เท่านั้น
- ต้องรับความเสี่ยงในการลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี ต้องถือครอง 10 ปี ขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ซื้อ
- หักภาษีได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 200,000 บาท แยกออกจากการลงทุนในกองทุน RMF SSF กองทุนสำรองเลี้ยงชีวิตและประกันชีวิตแบบบำนาญ
![[5 ข้อเท็จจริง] ควรลงทุนกับกองทุนหุ้นต่างประเทศดีไหม?](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2022/07/25-200x200.jpg)
บทสรุปส่งท้าย : กองทุนในประเทศไทย อันไหนช่วยหักภาษีได้เหมาะสมที่สุดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ได้รับคำตอบ!
หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของกองทุนทั้งสามรูปแบบกันไปแล้ว เชื่อว่า ณ ตอนนี้หลาย ๆ คนก็คงที่จะเริ่มมองเห็นภาพรวมแล้วว่าหากต้องการที่จะทำการหักภาษีกองทุนใดที่มีความน่าสนใจมากที่สุด และตัดสินใจได้ว่าควรทำการลงทุนกับกองทุนใดดีที่นอกจากจะช่วยหักภาษีแล้ว ยังช่วยให้ได้รับผลกำไรตอบแทนกลับคืนมาได้อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน...
