Contents
- 1 อยากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 โปรดอ่าน ราคา การคุ้มครอง เหมาะกับรถยนต์แสนรักของคุณหรือเปล่า!?
- 2 ประกันรถยนต์ประเภท 1 คืออะไร!?
- 3 ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาเท่าไหร่!?
- 4 ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง!?
- 5 ประกันรถยนต์ชั้น 1 มอบความคุ้มครองในด้านใดกันบ้าง!?
- 6 เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด!?
- 7 บทสรุปส่งท้าย : เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีไหม!?
อยากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 โปรดอ่าน ราคา การคุ้มครอง เหมาะกับรถยนต์แสนรักของคุณหรือเปล่า!?
เพื่อรถยนต์แสนรัก.. สำหรับหลายคนก็คงอยากที่จะเลือกประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ช่วยคุ้มครองคู่หูให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปราศจากความกังวลขณะที่กำลังใช้งานบนถนนกันอย่างแน่นอน
ซึ่งในปัจจุบัน ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องนี้มากที่สุดก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “ประกันรถยนต์ชั้น 1” นั่นเอง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ลองมาทำความรู้จักรายละเอียดและวิเคราะห์กันก่อนดีกว่าว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้น เหมาะกับคุณจริงหรือเปล่า!? ผ่านรายละเอียดข้อมูลที่น่าสนใจต่อไปนี้กัน
ประกันรถยนต์ประเภท 1 คืออะไร!?
ประกันรถยนต์ประเภท 1 คือ ประกันภัยสำหรับรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองได้อย่างรอบด้านมากที่สุด โดยคุ้มครองทั้งในส่วนของตัวรถยนต์ ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและคู่กรณีทั้งหมด ทำให้ประกันรถยนต์ประเภท 1 ช่วยเพิ่มความสบายใจในการใช้รถใช้ถนนที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาเท่าไหร่!?
ด้วยความคุ้มครองที่ค่อนข้างครอบคลุมอย่างมากทำให้ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีราคาที่ค่อนข้างสูงมากกว่าประกันรถยนต์ชั้นอื่นเอาการ โดยส่วนใหญ่แล้วเบี้ยประกันภัยของประกันรถยนต์ชั้น 1 จะอยู่ที่ราคาประมาณ 12,000 บาท ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ราคาของประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของรถยนต์ รุ่นและปีที่ทำการใช้งาน ยิ่งเป็นรถใหม่ป้ายแดงราคาของประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะค่อนข้างถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้มานานหลายปีแล้วนั่นเอง ดังนั้น ราคาเบี้ยประกันของประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะแตกต่างกันออกไปตามปัจจัยดังกล่าว หากต้องการราคาที่แน่นอนควรติดต่อกับบริษัทประกันภัยที่สนใจ เพื่อขอราคาเบี้ยประกันภัยที่แท้จริงอีกครั้ง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง!?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะอย่างมากสำหรับรถใหม่ป้ายแดง คนที่ออกรถยนต์เป็นคันแรกและมือใหม่ที่หัดขับรถยนต์ เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 1 มอบความคุ้มครองให้กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมไปถึงอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีอีกด้วย
ความคุ้มครองที่น่าสนใจเหล่านี้เอง ที่จะช่วยเสริมความกล้าในการนำรถยนต์แสนรักออกมาใช้งานบนถนนมากขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นก็จะมัวแต่หวาดระแวงปราศจากความกล้าจนต้องจอดรถทิ้งเอาไว้กระทั่งสนิมเขรอะกันพอดี
นอกจากนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังคุ้มค่าอย่างมากสำหรับคนที่ประวัติในการขับขี่รถยนต์ที่ดี เหมาะกับคนที่รักรถยนต์ขับขี่ด้วยความสติ และให้ความสำคัญกับเรื่องของการขับขี่ด้วยความปลอดภัยมากที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้น 1 มอบความคุ้มครองในด้านใดกันบ้าง!?
ในส่วนของความคุ้มครองนั้น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้มอบสิทธิ์ที่น่าสนใจและหลากหลายให้กับการใช้รถ ใช้ถนน โดยสามารถทำการแบ่งประเภทของการคุ้มครองออกได้เป็นหัวข้อย่อยเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจได้ดังต่อไปนี้
1.ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันภัยเมื่อถูกชน สูญหาย ไฟไหม้และน้ำท่วม
2.ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองบุคคลภายนอก (คู่กรณี) โดยจะทำการจ่ายสินไหมทดแทนให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น
3.ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองบุคคลที่อยู่ภายในรถยนต์ที่เอาประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถยนต์และค่าประกันตัวผู้ขับขี่ เป็นต้น
เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด!?
สำหรับการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 มีหลักการแสนง่ายที่ควรทราบเอาไว้ สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ดังต่อไปนี้
1.เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้สอดคล้องกับสไตล์การใช้งานรถยนต์มากที่สุด
2.เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยให้ความสำคัญกับราคาของเบี้ยประกันภัยของบริษัทที่สามารถจ่ายไหว
3.เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่เหมาะสม เช่น เพิ่มการประกันภัยจากการก่อการร้าย เป็นต้น
4.เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 จากความมั่นคงของบริษัทประกันภัยและความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ เช่น เจ้าหน้าที่มาถึงสถานที่เกิดอุบัติเหตุรวดเร็ว เคลมไวและมีอู่ซ่อมได้มาตรฐานทั่วประเทศ เป็นต้น
บทสรุปส่งท้าย : เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีไหม!?
ถ้าหากถามว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีไหม!? ก็คงจะตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า “ดีมาก” เพราะให้ความคุ้มครองรอบด้าน ต่อให้ไม่มีคู่กรณีก็สามารถที่จะทำการเคลมประกันจากความเสียหายได้แบบเต็มจำนวน
อย่างไรก็ตาม ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่ามีเบี้ยประกันภัยที่จ้องจ่ายให้กับทางบริษัทประกันสูงมากที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งหมด ดังนั้น อย่าลืมสำรวจจำนวนเงินในกระเป๋าของตัวเองก่อนว่าจ่ายไหว ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในกระเป๋าได้เช่นกัน ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน..