Contents
- 1 ประกันชีวิตกับประกันรถยนต์ เหมือนกันอย่างไร!? อะไรควรให้ความสำคัญทำก่อน!?
- 2 ประกันชีวิตกับประกันรถยนต์แตกต่างกันอย่างไร!?
- 3 ประกันรถยนต์ คืออะไรและสำคัญอย่างไร!?
- 4 ประกันรถยนต์แบ่งออกได้เป็นกี่ประเภทบ้าง!?
- 5 ประกันรถยนต์ ชั้น 1
- 6 ประกันรถยนต์ ชั้น 2
- 7 ประกันรถยนต์ ชั้น 2+
- 8 ประกันรถยนต์ ชั้น 3
- 9 ประกันรถยนต์ ชั้น 3+
- 10 ประกันชีวิตคืออะไร และสำคัญอย่างไร!?
- 11 ประเภทของประกันชีวิต
- 12 บทสรุปส่งท้าย : ประกันรถยนต์กับประกันชีวิต ความเหมือนที่แตกต่าง
ประกันชีวิตกับประกันรถยนต์ เหมือนกันอย่างไร!? อะไรควรให้ความสำคัญทำก่อน!?
ชีวิตของคนเราอยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง... ไม่ว่าจะเรื่องของสุขภาพที่อาจถูกโรคภัยมาเบียดเบียนได้ทุกเมื่อ หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อาจเกิดขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัวก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เป็นเรื่องที่ชวนให้น่ากังวลเป็นอย่างมากเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจนักที่จำเป็นจะต้องทำ “ประกัน” เพื่อคุ้มครองสิ่งต่างๆในชีวิตมากมายไปหมด โดยเฉพาะประกันสุขภาพ ประกันชีวิตและประกันภัยรถยนต์ แต่หลังจากที่ทำประกันไปหลายอย่างแยกย่อย หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าแล้วประกันชีวิตกับประกันรถยนต์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร!? ทำรวมกันไปเลยไม่ได้เหรอ!? หรือประกันทั้งสองประเภทนี้ ควรให้ความสำคัญในการทำกับอันไหนก่อนดี!? ถ้าหากใครมีปัญหาเหล่านี้กวนใจ รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะมีคำตอบที่น่าสนใจมาฝากกันอย่างแน่นอน...
ประกันชีวิตกับประกันรถยนต์แตกต่างกันอย่างไร!?
เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจประกันชีวิตกับประกันรถยนต์ได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ก่อนอื่นต้องมาทำการแยกประเภทของประกันก่อนว่าทั้งสองแบบนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรกันบ้าง!?
ประกันรถยนต์ คืออะไรและสำคัญอย่างไร!?
ประกันรถยนต์ คือ การทำประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์ เพื่อคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น รถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองรวมไปถึงความคุ้มครองอุบัติเหตุ เฉี่ยวชน โดยให้การคุ้มครองค่าซ่อมแซมรถยนต์และค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมไปถึงค่าประกันตัวของผู้ขับขี่หากอุบัติเหตุดังกล่าวกลายเป็นคดีอาญาขึ้นมา อย่างไรก็ตามความคุ้มครองดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับระดับของประกันรถยนต์ที่ทำเอาไว้ด้วยและยิ่งเบี้ยประกันสูงมากเท่าไหร่ ทุนในการคุ้มครองของประกันรถยนต์ก็จะยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย
ประกันรถยนต์แบ่งออกได้เป็นกี่ประเภทบ้าง!?
ประกันรถยนต์ ชั้น 1
คุ้มครองดูแลทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด มีหรือไม่มีคู่กรณี ก็จะได้รับการดูแล
ประกันรถยนต์ ชั้น 2
คุ้มครองคู่กรณี ทรัพย์สินบุคคลอื่น รวมไปถึงกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้
ประกันรถยนต์ ชั้น 2+
คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนกับรถ รถยสูญหาย ไปไหม้ ดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่มีการเฉี่ยวชน หรือพลิกคว่ำ กับยานพาหนะทางบกเท่านั้น พร้อมดูแลในกรณีที่รถยนต์ หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มากับรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ และชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายในและภายนอกของรถ
ประกันรถยนต์ ชั้น 3
คุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินของคู่กรณี และชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ
ประกันรถยนต์ ชั้น 3+
คุ้มครองเฉพาะรถชนกับรถ และรถยนต์เกิดการสูญหาย ไฟไหม้ ดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ เนื่องมาจากอุบัติเหตุเฉี่ยวชน หรือพลิกคว่ำกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอกและภายในรถ
ประกันชีวิตคืออะไร และสำคัญอย่างไร!?
ประกันชีวิต คือ เป็นการทำประกันที่จ่ายค่าตอบแทนเมื่อผู้มีสิทธิ์เอาประกันเกิดอาการเจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุ เรียกได้ว่าประกันชีวิตช่วยคุ้มครองในเรื่องของอาการเจ็บป่วยและรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนอกเหนือจากอุบัติเหตุรถยนต์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ประกันชีวิตยังมีข้อดีจากการที่สามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ประเภทของประกันชีวิต
- ประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ
- ประกันชีวิตในรูปแบบของการออมทรัพย์
- ประกันชีวิตสำหรับการลงทุน
- ประกันชีวิตในรูปแบบของบำนาญ
บทสรุปส่งท้าย : ประกันรถยนต์กับประกันชีวิต ความเหมือนที่แตกต่าง
โดยพื้นฐานแล้วประกันชีวิตกับประกันรถยนต์ มีความสำคัญที่เหมือนกันเป็นอย่างมาก เพียงแต่แยกประเภทของความสำคัญในการทำประกันย่อยออกมาที่แตกต่างกันเท่านั้น ถ้าหากถามว่าประกันประเภทใดน่าทำมากกว่ากัน!? ก็ต้องขอบอกว่าประกันทั้งสองประเภทน่าทำทั้งคู่ เพราะให้การคุ้มครองเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่าควรทำประกันชีวิตก่อน เพราะให้สิทธิ์ในกาคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมไปถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในท้องถนน และถ้าหากใครมีรถยนต์ในครอบครองค่อยทำการซื้อประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อให้คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ ค่าซ่อมที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เกิดความอุ่นใจได้เป็นอย่างดีว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ไม่ว่าอย่างไร ประกันชีวิตและประกันรถยนต์ก็จะช่วยคุ้มครองได้อย่างเหมาะสมอย่างแน่นอน...