Contents
- 1 อยากลงทุนกับกองทุนธนาคารกรุงศรี มือใหม่ควรเริ่มต้นอย่างไร!? บทความนี้มีคำตอบ
- 2 กองทุนรวม คืออะไร!?
- 3 ข้อดีที่น่าสนใจของกองทุนรวม
- 4 ประเภทของกองทุนรวม มีอะไรกันบ้าง!?
- 5 เลือกกองทุนธนาคารกรุงศรีอย่างไร ให้ได้ผลตอบแทนสุดคุ้มค่า
- 6 มารู้จักกับมาตรวัดผลการดำเนินการกองทุน ที่ได้รับความนิยม
- 7 1.ชาร์ป เรโช (Sharpe Ratio)
- 8 2.เทรเนอร์ เรโช (Treynor Ratio)
- 9 3.เจนเซ่น อัลฟ่า (Jensen’s Alpha)
- 10 Krungsri @ccess Mobile Application ผู้ช่วยจัดการลงทุนที่ไม่ควรพลาด
- 11 บทสรุปส่งท้าย : ลงทุนกับกองทุนธนาคารกรุงศรีดีไหม!?
อยากลงทุนกับกองทุนธนาคารกรุงศรี มือใหม่ควรเริ่มต้นอย่างไร!? บทความนี้มีคำตอบ
ในสมัยก่อนหากพูดถึงการออมเงิน...
หลายคนก็คงเลือกที่จะนำเงินไปฝากกับทางธนาคาร เพราะเป็นองค์กรที่มีความมั่นคงและยังได้รับผลตอบแทนในฐานะของดอกเบี้ยเป็นประจำทุกปี
แต่... ในปัจจุบันคงปฎิเสธไม่ได้ว่า มีหลายช่องทางที่ช่วยให้สามารถเพิ่มเงินออมให้งอกเงยหลายแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือ “กองทุน” ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
และหนึ่งในสถาบันทางการเงินที่เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนในกองทุนก็คือธนาคารกรุงศรี ที่กำลังจะขอพามาแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้
กองทุนรวม คืออะไร!?
กองทุนรวม คือ เครื่องมือในการลงทุน (investment vehicle) สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย อย่างเช่น ประชาชนทั่วไป พนักงานบริษัท ข้าราชการ เป็นต้น ที่มีความต้องการอยากที่จะนำเงินเข้ามาทำการลงทุนในตลาดทุน ด้วยเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ มีการจัดการลงทุนได้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด ภายใต้กรอบความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
ข้อดีที่น่าสนใจของกองทุนรวม
- กองทุนรวม บริการโดยมืออาชีพด้านการลงทุน
- กองทุนรวม มีการกระจายความเสี่ยง
- กองทุนรวม มีสภาพคล่องทางการเงิน
- กองทุนรวม มีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย
- กองทุนรวม มีกลไกป้องกันผู้ลงทุน
ประเภทของกองทุนรวม มีอะไรกันบ้าง!?
เนื่องจากกองทุนรวมนั้น มีให้เลือกกันมากมายหลายประเภทและยังมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อให้มือใหม่สามารถเข้าใจการลงทุนได้อย่างเหมาะสม มาดูกันดีกว่าว่ากองทุนแต่ละแบบ มีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง!?
1.กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ (Fixed income fund)
กองทุนรวม ที่เน้นลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือ หุ้นกู้ เน้นความเสี่ยงต่ำ ในขณะเดียวกันก็ได้รับเงินปันผลจากดอกเบี้ยเป็นประจำ
2.กองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น (capital protected fund)
กองทุนรวมที่เน้นการลงทุนแบบต้นไม่หายแต่กำไรไม่สูงมากนัก ด้วยกลไกการเลือกลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ไม่ชอบสร้างความเสี่ยให้กับชีวิตของตัวเอง
3.กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (foreign investment fund: FIF)
กองทุนรวม ที่นักลงทุนทำหน้าที่เป็นช่องทางกระจายเงินทุนไปยังต่างประเทศเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
4.กองทุนรวมหน่วยลงทุน (fund of funds)
เป็นกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมอื่นอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดเอาไว้ในเงื่อนไขการลงทุน
5.กองทุนรวมตราสารแห่งทุน (equity fund)
กองทุนรวม ที่เน้นลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65 % เสี่ยงสูง เหมาะกับคนที่ชอบความเสี่ยง เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับคืนมานั้น คุ้มค่าเป็นอย่างมากเช่นกัน
6.กองทุนรวมมีประกัน (guaranteed fund)
กองทุนรวม ที่มีการประกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุน ทำให้สามารถที่จะลงทุนได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund)
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน หรือ ศูนย์การค้า ที่ผู้ลงทุน สามารถเป็นเจ้าของตึกได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดโอกาสได้ รับผลตอบแทนจากทรัพย์สินดังกล่าวอีกด้วย
8.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual fund : RMF)
ลงทุนแบบออมเงินระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุพร้อมได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ลดทุกปีที่ซื้อสูงสุดร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปีหรือ ไม่เกิน 500,000 บาท เน้นลงทุนระยะยาวต่อเนื่องจนอายุ 55 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการอยากที่จะมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง
9.กองทุนรวมผสม (mixed fund)
ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ผสมผสานกัน เน้นความยืดหยุ่นปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงของผู้ที่ลงทุน ทำให้กองทุนรวมตัวนี้ ค่อนข้างเหมาะกับมือใหม่ที่หัดลงทุนด้วยตัวเอง
10.กองทุนรวมตลาดเงิน (money market fund)
กองทุนรวมที่เหมาะกับคนที่อยากลงทุนในระยะสั้น ด้วยการลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี เป็นส่วนใหญ่เน้นความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
11.กองทุนรวมดัชนี (index fund)
กองทุนรวม ที่เน้นในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนล้อตามการเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหลักทรัพย์ ที่กำหนดไว้ในนโยบายการลงทุน เช่น ลงทุนตามดัชนี SET Index หรือ SET50 เป็นต้น
12.กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long term equity fund : LTF)
กองทุนรวม ที่เน้นการลงทุนในหุ้น ที่แถมสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีสำหรับเงินที่นำมาลงทุน ได้มากถึงร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี หรือไม่เกิน 500,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการลงทุนเพียง 5 ปฏิทิน ดังนั้น ถ้าหากใครสนใจอยากที่จะลงทุนกับกองทุนรวมประเภทนี้ ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อน
13.กองทุนรวม Exchange Traded Fund (ETF)
กองทุนที่มีการเปิดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ETF โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (Brokers) ได้ เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป และยังช่วยลดความเสี่ยง อีกทั้งยังใช้เงินเริ่มต้นในการลงทุนไม่มาก พร้อมกับช่วยสร้างสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น ทำให้นับว่าเป็นอีกหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เลือกกองทุนธนาคารกรุงศรีอย่างไร ให้ได้ผลตอบแทนสุดคุ้มค่า
1.เลือกกองทุนธนาคารกรุงศรี จากผลการตอบแทน เปรียบเทียบผลการตอบแทนที่มี Benchmark เดียวกัน
2.เลือกกองทุนธนาคารกรุงศรี จากการศึกษาผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปี และควรเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ
3.เลือกกองทุนธนาคารกรุงศรี โดยอ้างอิงความเสี่ยงหรือค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ที่จะบอกถึงความน่าจะเป็นของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงจากการลงทุน ที่แตกต่างจากผลตอบแทนที่คาดหวัง
มารู้จักกับมาตรวัดผลการดำเนินการกองทุน ที่ได้รับความนิยม
1.ชาร์ป เรโช (Sharpe Ratio)
ชาร์ปเรโช(SharpeRatio) เป็นหน่วยของการวัดผลตอบแทนของกองทุนรวมที่มากกว่า หรือเหนือกว่าอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยงปรับ ด้วยค่าความเสี่ยงของกองทุนรวม คือส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นการมอง “ผลตอบแทน” ต่อ 1 หน่วยความเสี่ยงที่เท่ากัน
2.เทรเนอร์ เรโช (Treynor Ratio)
เทรเนอร์เรโช (Treynor Ratio) เป็นการวัดผลตอบแทนของกองทุนรวมที่ มากกว่าหรือเหนือกว่าอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยง เช่น พันธบัตรรัฐบาลโดยปรับด้วยค่าความเสี่ยงที่เป็นระบบของกองทุนรวม (ค่าเบต้าเป็นการวัดความผันผวนของผลตอบแทนอีกแบบหนึ่งที่อ้างอิงกับ ตลาด) ซึ่งแนวคิดของ เทรเนอร์นั้น ก็คล้ายคลึงกับ Sharpe Ratio ต่างกัน ก็เพียงเรื่องที่Treynor Ratio นั้น มีการนำความเสี่ยงที่เป็นระบบมาใช้
3.เจนเซ่น อัลฟ่า (Jensen’s Alpha)
เจนเซ่น อัลฟ่า (Jensen’s Alpha) เป็นการเปรียบเทียบผลต่างระหว่าง อัตราผลตอบแทนของกองทุนรวมกับอัตราผลตอบแทนที่ต้องการปรับด้วย ค่าความเสี่ยง
Krungsri @ccess Mobile Application ผู้ช่วยจัดการลงทุนที่ไม่ควรพลาด
สำหรับคนที่ต้องการจัดการกับกองทุนธนาคารกรุงศรี อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่าน Krungsri @ccess Mobile Application ที่บอกเลยว่าคนที่ลงทุนกับกองทุนของธนาคารกรุงศรีไม่ควรพลาด
บทสรุปส่งท้าย : ลงทุนกับกองทุนธนาคารกรุงศรีดีไหม!?
ธนาคารกรุงศรี มีกองทุนให้เลือกลงทุนอย่างหลากหลายนับ 100 กองทุนเลยทีเดียว...
ถ้าหากใครศึกษาหาข้อมูลแล้วพบว่ามีกองทุนของธนาคารกรุงศรีที่น่าสนใจตอบโจทย์
ก็อย่ามัวรอช้า มาลองเริ่มลงทุนกันได้เลย...