- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด คือ ประกันรถยนต์ที่เรียกได้ว่ามีรูปแบบใหม่แตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป ผู้ใช้งานสามารถ เลือกเปิด-ปิดได้เมื่อต้องการใช้งานหรือไม่ได้ใช้งาน
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งแบบชั้น 1 , 2+ , 2 และ 3+ มีความคุ้มครองทั้งแบบ 1 , 3 ,4 ,6 และ 12 เดือน
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ค่าเบี้ยประกันถือว่าถูก เพราะคิดตามระยะเวลาในการใช้งานจริง เหมาะกับคนใช้รถยนต์เพียงแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง
Contents
- 1 เจาะลึกประกันรถยนต์เปิด-ปิด คืออะไรและมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง?
- 2 ประกันรถยนต์เปิด-ปิด คืออะไร ทำไมทำแบบ 1, 6 , 12 เดือนน่าสนใจสำหรับคนใช้รถยนต์
- 3 ข้อดีที่น่าสนใจของประกันรถยนต์เปิด-ปิด ที่ให้การคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน
- 4 ส่งท้ายก่อนจาก # ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ให้ความคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน คุ้มค่าจริงหรือเปล่า
เจาะลึกประกันรถยนต์เปิด-ปิด คืออะไรและมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง?
“ประกันรถยนต์” เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คนใช้รถใช้ถนนเป็นประจำต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเสมือนกับหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ผู้ขับขี่รถยนต์ก็จะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม
หนึ่งในรูปแบบของการประกันภัยรถยนต์ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดในปัจจุบันก็คือ ประกันรถยนต์เปิด-ปิด นั่นเอง ซึ่งประกันดังกล่าวก็มีให้เลือกกันหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบ 1 , 6 หรือ 12 เดือน ส่วนประกันรถยนต์เปิด-ปิดจะมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้างนั้น บทความชิ้นนี้จะมีคำตอบที่น่าสนใจมาบอกกล่าวกันอย่างแน่นอน
ประกันรถยนต์เปิด-ปิด คืออะไร ทำไมทำแบบ 1, 6 , 12 เดือนน่าสนใจสำหรับคนใช้รถยนต์
ประกันรถยนต์เปิด-ปิด คือ ประกันรถยนต์ที่เรียกได้ว่ามีรูปแบบใหม่แตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถ “เลือกเปิด-ปิดได้เมื่อต้องการใช้งานหรือไม่ได้ใช้งาน” เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยนัก ความคุ้มครองประกันตั้งแต่ชั้น 1 ลงไป และมีรูปแบบของการคุ้มครองให้เลือกกันอย่างมากมาย เช่น 1 , 4 6 และ 12 เดือน เป็นต้น
ลักษณะของประกันรถยนต์เปิด-ปิดจะเป็นการเปิดใช้งานยามเมื่อต้องการใช้รถยนต์ โดยจะมีการคิดเบี้ยประกันตามจำนวนที่มีการใช้งานจริง ถ้าหากเมื่อใดก็ตามที่ไม่ได้ใช้รถยนต์แล้วทำการปิดเอาไว้ก็จะไม่จำเป็นต้องเสียเบี้ยประกันภัยอีกต่อไป สำหรับการใช้งานประกันรถยนต์เปิด-ปิด เป็นการทำผ่านทาง APP ใน Smart Phone ด้วยตัวเอง
ข้อดีที่น่าสนใจของประกันรถยนต์เปิด-ปิด ที่ให้การคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน
สำหรับจุดเด่นที่มีความน่าสนใจของประกันรถยนต์เปิด-ปิด ที่ให้ความคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน สามารถทำการสรุปออกเป็นหัวข้อย่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจได้ดังต่อไปนี้
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ค่าเบี้ยประกันถือว่าถูก เนื่องจากมีการคิดตามระยะเวลาในการใช้งานจริง
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ช่วยให้บริษัทประกันภัยติดตามให้ความช่วยเหลืองง่ายดายมากขึ้น เนื่องจากรถยนต์มีการติดตั้งระบบ GPS
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด สามารถทำการเปิด-ปิดการใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยตัวเองผ่าน APP บน Smart Phone
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด สามารถเช็กระยะเวลาความคุ้มครองด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด สามารถซื้อหรือต่ออายุการรับประกันได้ผ่าน APP ของ Smart Phone
- ประกันรถยนต์เปิด-ปิด เหมาะกับคนใช้รถยนต์เพียงแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง
เลือกประกันรถยนต์เปิด-ปิด แบบ 1 , 6 และ 12 เดือน แบบไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด
ก่อนอื่นควรทำการสำรวจตัวเองก่อนว่า การใช้งานรถยนต์นั้นเป็นแบบไหน!? ถ้าหากใช้ประจำทุกวัน แต่ใช้งานไม่มากเพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงการเลือกประกันรถยนต์เปิด-ปิด แบบ 12 เดือน อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจที่สุด
แต่ถ้าหากในช่วงครึ่งปี มีการใช้งานรถยนต์แต่ไม่ได้ใช้ยาวทั้งปีการเลือกประกันรถยนต์เปิด-ปิด แบบคุ้มครอง 6 เดือน ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์กว่า ขณะเดียวกันถ้าหากใครใช้รถยนต์น้อยมากก็ควรเลือกแบบคุ้มครอง 1 เดือน หลังจากนั้นหากใช้งานมากขึ้นคอยทำการต่ออายุแบบเดือนต่อเดือนในภายหลังจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าอย่างแน่นอน
ส่งท้ายก่อนจาก # ประกันรถยนต์เปิด-ปิด ให้ความคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน คุ้มค่าจริงหรือเปล่า
จากข้อมูลที่ได้นำเสนอกันไปแล้วในข้างต้นจะเห็นได้ว่าประกันรถยนต์เปิด-ปิด ที่ให้การคุ้มครองแบบ 1 , 6 และ 12 เดือน ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์เหมาะสมอย่างมากกับคนที่มีการใช้งานรถยนต์น้อยครั้งและไม่ได้ต้องการคุ้มครองตลอดเวลา ที่สำคัญคือเบี้ยประกันถูกมาก ทำให้ประกันรถยนต์เปิด-ปิด เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่กำลังมองหาการคุ้มครองที่ครอบคลุมเฉพาะในช่วงเวลาใช้งาน เรียกได้ว่าสะดวกสบายตอบโจทย์อย่างแน่นอน