Contents
- 1 จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต กับหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว ชาว Pantip มีความเห็นอย่างไร มาฟังกัน!
- 2 การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต คืออะไร!?
- 3 ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงนิยมการจ่ายบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำ!?
- 4 การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหมาะกับใครบ้าง?
- 5 ข้อดีถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
- 6 ข้อเสียถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
- 7 สิ่งที่ควรทราบเมื่อใช้บริการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต
- 8 1.การจ่ายขั้นต่ำ : เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยทันที สูงสุด 20% / ปี
- 9 2.การจ่ายขั้นต่ำ : เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตดอกเบี้ยจะถูกคิดจากยอดค้างชำระและค่าใช้จ่ายในรอบบิลนั้น
- 10 3.การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต : ถ้ายังมียอดค้างชำระยอดค่าใช้จ่ายใหม่ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยด้วย
- 11 4.การจ่ายขั้นต่ำ : ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ทำการชำระค่าบริการหรือซื้อสินค้า
- 12 5.การจ่ายขั้นต่ำ : ทำให้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย
- 13 6.การจ่ายขั้นต่ำ : ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาผ่อนชำระยาวนานมากขึ้น
- 14 7.การจ่ายขั้นต่ำ : หากพลาดจ่ายช้า ต้องเสียค่าธรรมเนียมติดตามทวงหนี้
- 15 จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!?
- 16 เจาะลึก Transactor และ Revolver สองประเภทลูกหนี้บัตรเครดิต แบบไหนที่ธนาคารชอบ!?
- 17 1.ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Revolver : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
- 18 2.ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Transactor : จ่ายบัตรเครดิตมากกว่าขั้นต่ำ หรือเต็มจำนวน
- 19 เป็นลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Revolver ผ่อนขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!?
- 20 หยุดจ่ายการจ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำนานแค่ไหนถึงเสียประวัติ!?
- 21 หนี้ที่เกิดจากจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต มาจากไหนกัน?
- 22 ขั้นที่ 1 : คิดอัตราดอกเบี้ยจากรายการที่เกิดขึ้นทั้งหมด
- 23 ขั้นที่ 2 : คิดอัตราดอกเบี้ยจากเงินคงเหลือหลังจากที่ทำการจ่ายขั้นที่ 1 ไปแล้ว
- 24 เคล็ดลับในการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตให้ห่างไกลคำว่า “หนี้!”
- 25 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง แม้จะจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำครบแต่อาจ "เสียประวัติเครดิตบูโร"
- 26 มาฟังความเห็นของการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากชาว Pantip ดีหรือไม่ดีอย่างไร!?
- 27 ความเห็นที่ 1 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 28 ความเห็นที่ 2 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 29 ความเห็นที่ 3 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 30 ความเห็นที่ 4 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 31 ความเห็นที่ 5 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 32 ความเห็นที่ 6 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 33 ความเห็นที่ 7 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 34 ความเห็นที่ 8 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 35 ความเห็นที่ 9 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 36 ความเห็นที่ 10 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
- 37 สรุป : ความเห็นในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากสมาชิกชาว Pantip
- 38 ข้อดี : ในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากประสบการณ์ชาว Pantip
- 39 ข้อเสีย : ในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากประสบการณ์ชาว Pantip
- 40 ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากชาว Pnatip
- 41 บทสรุปส่งท้าย : การจ่ายยอดขั้นต่ำบัตรเครดิต คือ สิ่งสุดท้ายที่คนไม่อยากเป็นหนี้ควรทำ!?
จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต กับหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
ชาว Pantip มีความเห็นอย่างไร มาฟังกัน!
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าบัตรเครดิตเป็น “บัตรวิเศษ”...
ที่สามารถช่วยดลบันดาลให้ได้สินค้าที่ต้องการมาครอบครองได้อย่างรวดเร็วทันใจ แถมยังสามารถเลือกจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตต่อเดือนทำให้ประหยัดมากกว่าการซื้อสินค้าเงินสดเป็นอย่างมาก
ความคิดดังกล่าวทำให้หลายคนหลงใหลเผลอใช้บัตรเครดิตรูดผ่อนชำระสินค้าเป็นจำนวนมาก และเมื่อจำนวนของสินค้ามากขึ้น นั่นหมายความว่าจำนวนเงินที่ต้องจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตต่อเดือนมากขึ้นตามไปด้วยจนทำให้หลายคนไม่สามารถชำระบิลค่าบริการบัตรเครดิตได้อย่างเต็มจำนวนกระทั่งนำไปสู่การเกิด “หนี้” จำนวนมากขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัว
ถ้าหากใครกำลังสนใจอยากที่จะทำการผ่อนชำระสินค้า โดยใช้วิธีการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ขอแนะนำให้ทำการศึกษาบทความชิ้นนี้ ที่ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากชาว Pantip อย่างละเอียด
รับรองว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนและวิธีการที่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเกิดหนี้จากบัตรเครดิตได้โดยที่ไม่ทันรู้ตัวได้อย่างแน่นอน
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต คืออะไร!?
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต คือ ทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการรูดใช้งานบัตรเครดิตแล้วไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้อย่างเต็มจำนวน เป็นการรักษาสถานะด้านการเงินของตัวเองเอาไว้ให้เป็น "ปกติ" ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้ประวัติทางการเงินที่ดีดังกล่าวมาใช้ในการกู้ยืมสินเชื่อประเภทอื่นในอนาคตได้อีกด้วย
ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงนิยมการจ่ายบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำ!?
คนส่วนใหญ่มักที่จะมีความเชื่อที่ค่อนข้างผิดฝังอยู่ในหัวเอาไว้ว่าการจ่ายบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำ เป็นการช่วย "ประหยัดเงิน" ในแต่ละเดือนเอาไว้ และสามารถนำเงินในส่วนดังกล่าวไปใช้จ่ายตามความำเป็นที่เหมาะสมได้ประโยชน์มากกว่า แต่ที่จริงแล้วควาามคิดดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความไม่ระมัดระวังและปราศจากการวางแผนทางการเงินอย่างเหมาะสม จนกระทั่งให้จมไปสู่วังวนของการเป็นหนี้อย่างไม่ทันรู้ตัว
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหมาะกับใครบ้าง?
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต เหมาะกับคนที่ไม่มีเงินก้อนในมือเพียงพอที่จะทำการจ่ายซื้อสินค้าได้เต็มจำนวน และมองหาบริการผ่อนชำระสินค้าที่ประหยัดและต้องจ่ายคืนให้กับผู้ให้บริการบัตรเครดิตให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาระในการใช้จ่ายต่อเดือน
ข้อดีถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ ช่วยไม่ให้ต้องแบกภาระการเงินในแต่ละเดือนที่มากจนเกินไป
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ ช่วยรักษาสถานะการเงินให้เป็นปกติ ไม่เสียประวัติการเงิน การกู้ยืมเงินในอนาคตจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก
ข้อเสียถ้าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ ต้องเสรยดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันแรกที่ทำการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านการรุดจ่าย
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ ดอกเบี้ยจะถูกคิดจากยอดที่ค้างชำระและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชีใหม่
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ หากมียอดค้างชำระ ยอดใช้จ่ายใหม่ก็จะถูกคิดอกเบี้ยมากขึ้นตามไปด้วย
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ มีค่าบริการทวงถามหากไม่ทำการจ่ายตรงเวลา
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ อาจทำให้ต้องแบกรับอัตราหนี้สินเกินตัว
- จ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำ อาจถูกลดวงเงินอนมุติจากสินเชื่อให้น้อยลง
สิ่งที่ควรทราบเมื่อใช้บริการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต
1.การจ่ายขั้นต่ำ : เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยทันที สูงสุด 20% / ปี
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า เมื่อทำการชำระจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตไม่เต็มจำนวนจะถูกปรับคิดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ค้างจ่าย แต่ที่จริงแล้วทันทีที่ใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้าจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยทันทีสูงสุด 20% ต่อปี ตั้งแต่วันแรกที่ซื้อสินค้า และคิดเป็นรายวันไปจนกว่าจะชำระหนี้ที่ค้างอยู่ได้ทั้งหมด
2.การจ่ายขั้นต่ำ : เมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตดอกเบี้ยจะถูกคิดจากยอดค้างชำระและค่าใช้จ่ายในรอบบิลนั้น
ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตมีสองส่วน คือ “ยอดเงินที่ค้างชำระ” และ “ยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบิล” ยิ่งปล่อยเอาไว้นานเท่าใด และไม่รีบนำเงินไปปิดหนี้บัตรเครดิตอย่างรวดเร็วเพียงพอก็จะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
3.การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต : ถ้ายังมียอดค้างชำระยอดค่าใช้จ่ายใหม่ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยด้วย
ถ้าหากบัตรเครดิตยังมียอดค้างชำระอยู่แล้วยังนำไปทำการใช้จ่ายก็จะมียอดการชำระใหม่เกิดขึ้น พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยชุดใหม่ เนื่องจากบัตรเครดิตใบนั้นได้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีต่อไปโดยอัตโนมัติ
4.การจ่ายขั้นต่ำ : ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ทำการชำระค่าบริการหรือซื้อสินค้า
ในความเป็นจริงแล้วทันทีที่ทำการซื้อสินค้าและบริการจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 / ปี ณ วันที่ทำการรูดจ่าย โดยมีการคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันจนกว่าจะทำการชำระหนี้ที่คงอยู่ได้ทั้งหมด
5.การจ่ายขั้นต่ำ : ทำให้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย
โดยทั่วไปแล้วบัตรเครดิตจะมีระยะเวลาในการปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไป ประมาณ 50-55 วัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำการจ่ายบิลบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำ ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยดังกล่าวก็จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ มิหนำซ้ำยิ่งมีการนำบัตรเครดิตไปใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มเติมโดยที่ยังไม่ได้ชำระหนี้เดิมทั้งหมดก็จะทำให้ถูกคิดดอกเบี้ยทันทีในวันที่ใช้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในรอบบิลนั้นมีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นการสร้างหนี้อย่างไม่ทันรู้ตัว
6.การจ่ายขั้นต่ำ : ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาผ่อนชำระยาวนานมากขึ้น
เมื่อทำการจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนานมากขึ้น ในขณะเดียวกันอัตราในส่วนของดอกเบี้ยที่ต้องทำการจ่ายคืนให้กับทางสถาบันทางการเงินเองก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เชื่อว่าทั้งสองเรื่องนี้คงทำให้หลายคนไม่ปลื้มอย่างแน่นอน
7.การจ่ายขั้นต่ำ : หากพลาดจ่ายช้า ต้องเสียค่าธรรมเนียมติดตามทวงหนี้
บางครั้งด้วยจำนวนการจ่ายขั้นต่ำของบัตรเครดิตที่ค่อนข้างน้อย ทำให้หลายคนไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับบิลเรียกเก็บค่าบริการของบัตรเครดิตนัก จนนำไปสู่การเผลอลืมจ่ายขั้นต่ำไป เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ครบกำหนดชำระคืนจนทำให่้เกิดการติดตามทวงหนี้จากเจ้าหน้าที่ของสถาบันทางการเงินที่นอกจากสรา้งความรำคาญใจให้แล้ว การติดตามทวงหนี้เหล่านี้หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะต้องเสียค่าบริการครั้งละประมาณ 100 บาท เลยทีเดียว นั่นหมายความว่ายิ่งถูกทวงหนี้บัตรเครดิตบ่อยเท่าไหร่ก็ x100 บาท เป็นจำนวนที่ต้องจ่ายให้กับทางสถาบันทางการเงินนั่นเอง
จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!?
หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!? เพราะกลัวว่าถ้าหากจ่ายน้อยจนกิดไปจะส่งผลกระทบกับประวัติเครดิตบูโรของตัวเอง ลองมาฟังข้อมูลแบบเจาะลึกกัน!
เจาะลึก Transactor และ Revolver สองประเภทลูกหนี้บัตรเครดิต แบบไหนที่ธนาคารชอบ!?
1.ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Revolver : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ
ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภทนี้ จะมียอดในการชำระที่ค้างอยู่ในบัญชีและถุกนำมาคิดเป็นดอกเบี้ย และเป็นกลุ่มของลูกหนี้ที่นิยมในจ่ายขั้นต่ำให้กับทางบัตราเครดิต
2.ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Transactor : จ่ายบัตรเครดิตมากกว่าขั้นต่ำ หรือเต็มจำนวน
ลูกหนี้บัตรเครดิตประเภทที่ทำการจ่ายเงินคืนให้กับทางธนาคารทุกเดือน ทำให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคาร
เป็นลูกหนี้บัตรเครดิตประเภท Revolver ผ่อนขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!?
ถ้าหากถามว่าผ่อนขั้นต่ำบัตรเครดิต เสียเครดิตไหม!? ต้องขอตอบว่า "ไม่เสียประวัติอย่างแน่นอน" เนื่องจากสถาบันทางการเงินนั้น ชอบลูกหนี้ประเภทจ่ายขั้นต่ำมากกว่าแบบที่จ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน เพราะลูกหนี้ที่จ่ายขั้นต่ำนั้นจะทำให้เกิด "ดอกเบี้ย" ที่เป็นรายได้หลักของสถาบันทางการเงินขึ้นมาและกว่าที่จะทำการผ่อนชำระจนหมดก็ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน อันเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับสถาบันทางการเงินในระยะยาวว ดังนั้น ตราบใดที่สามารถทำการจ่ายดอกเบี้ยขั้นต่ำให้กับทางสถาบันการเงิน สถานะเครดิตก็จะถือว่าเป็น "ปกติ" ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
หยุดจ่ายการจ่ายบัตรเครดิตขึ้นต่ำนานแค่ไหนถึงเสียประวัติ!?
โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าหากหยุดการชำระขั้นต่ำในเดือนแรก ก็มักที่จะถูกติดตามทวงถามจากเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สินของสถาบันทางการเงิน นอกจากจะสรา้งความรำคาญใจแล้ว หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่ากระบวนการติดตามทวงถามดังกล่าวต้องเสียค่าบริการ "200-300 บาท" และถ้าหากไม่ทำการชำระหนี้อย่างเหมาะสมภายใน 90 วัน สถาบันทางการเงินสามารถทำการยกเลิกบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ตามกฎหมาย และทำให้ "ประวัติการชำระเสีย" ตามไปด้วยนั่นเอง
หนี้ที่เกิดจากจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต มาจากไหนกัน?
หลายคนอาจสนุกสนานกับการใช้บัตรเครดิตจนเคยตัว แล้วค่อยทำการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเมื่อยอดบิลบัตรเครดิตส่งมาถึง แต่สำหรับคนที่รูดผ่อนซื้อสินค้าอย่างไม่ยั้งคิดอาจต้องตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นตัวเลขยอดชำระค่าจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตที่รวมมูลค่าของสินค้าจำนวนมากจนเกินกว่าที่จะชำระเต็มจำนวน ทำให้อาจถูกคิดดอกเบี้ยสูงสุดถึง 20% ต่อปี ทันทีในวันที่ทำการรูดบัตรเพื่อผ่อนชำระสินค้า โดยเงื่อนไขเหล่านี้จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผู้ให้บริการบัตรเครดิต อัตราดอกเบี้ยเหล่านี้เองที่กลายมาเป็นหนี้สะสมระยะยาว และอาจกลายมาเป็นหนี้ก้อนโตโดยไม่ทันรู้ตัว เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วการคิดอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตในการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจะถูกคิดเป็น 2 ขั้น คือ
ขั้นที่ 1 : คิดอัตราดอกเบี้ยจากรายการที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สำหรับสูตรการคำนวณอัตราดอกเบี้ยในขั้นแรกนี้ ใช้สมการง่ายๆคือ
จำนวนเงินต้นของสินค้าที่ค้างชำระ x อัตราภาษี (20%) x จำนวนวันที่ค้างชำระ หารด้วย 365 = จำนวนดอกเบี้ยในขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2 : คิดอัตราดอกเบี้ยจากเงินคงเหลือหลังจากที่ทำการจ่ายขั้นที่ 1 ไปแล้ว
จำนวนเงินต้นของสินค้าที่ต้องชำระ ลบ จำนวนเงินขั้นต่ำที่ชำระไปแล้ว x อัตราภาษี (20%) x จำนวนวันที่ค้างชำระ หารด้วย 365 = จำนวนดอกเบี้ยในขั้นที่ 2
เมื่อนำดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในขั้นที่ 1 และ 2 มารวมกัน ก็จะกลายมาเป็นจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องเพิ่มเติมให้กับผู้ให้บริการบัตรเครดิต นอกเหนือไปจากการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตตามปกติ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆเหล่านี้เอง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดหนี้ขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว นอกจากนี้หากทำการชำระเงินค่าบริการไม่เต็มจำนวนรอบบิล ก็จะทำให้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบิลต่อไปอีกด้วย นั่นหมายความว่ายิ่งจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตขั้นต่ำนานเท่าไหร่หนี้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
เคล็ดลับในการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตให้ห่างไกลคำว่า “หนี้!”
ถ้าไม่อยากเป็นหนี้จากการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตโดยไม่ทันรู้ตัว ขอแนะนำให้ทำตามข้อปฎิบัติแสนง่ายดาย ดังต่อไปนี้
- กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการใช้ในบัตรเครดิตในแต่ละเดือนว่ามีจำนวนแค่ไหนและหลีกเลี่ยงการรูดใช้จ่ายบัตรเครดิตที่เกินตัว การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถคุมยอดค่าใช้จ่ายและคุมยอดการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- คิดก่อนทำการรูดใช้บัตรเครดิตด้วยความระมัดระวัง ท่องไว้เสมอว่ายิ่งใช้เกินตัวเท่าไหร่่ ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น
- ทำการชำระยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตแบบต็มจำนวนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ต้องรับมือกับดอกเบี้ยในระยะยาว
- วางแผนการใช้จ่ายให้ดี และไม่ใช้บัตรเครดิตหากไม่จำเป็นจริงๆ
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง แม้จะจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำครบแต่อาจ "เสียประวัติเครดิตบูโร"
สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองทำการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำแล้วจะ "ลอยตัว" ไม่ต้องกลัวที่จะต้องเสียประวัติเครดิตบุโร ก็อย่าพึ่งชะล่าใจไป เพราะที่จริงแล้วยังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลกระทบ ทำให้เกิดปัญหาเสียประวติเครดิตบูโรได้เช่นกัน โดยมีฑฤติกรรมที่แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงให้ไกล ดังต่อไปนี้
- ชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ตรงเวลาบ่อยครั้ง
- ชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำไม่ครบจำนวน
- ชำระหนี้บัตรเครดิต ค้างเกินกำหนด 90 วัน
มาฟังความเห็นของการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากชาว Pantip ดีหรือไม่ดีอย่างไร!?
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตในเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้ลองมารับฟังความคิดเห็นจากชาว Pantip กันดีกว่าว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสียของการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตอย่างไรกันบาง!?
ความเห็นที่ 1 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
ถ้าไม่มีจ่ายเต็มก็จ่ายขั้นต่ำไปครับ ดอกเบี้ยต้องเสียอยู่แล้ว แต่ช่วยให้เครดิตไม่เสีย แล้วค่อยๆ เคลียร์ไปถ้ายังใช้บัตรอยู่ พยายามใช้ในใบที่ไม่มียอดค้าง และชำระเต็มจำนวน จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่มครับ ไม่อย่างนั้นถ้าใช้ใบที่จ่ายขั้นต่ำรูดซื้อของ มันจะเริ่มคิดดอกเบี้ย 20% ตั้งแต่วันที่รูด
ถ้าพอจะมีเหลือ พยายามจ่ายขั้นต่ำ 2 ใบ แล้วไปโปะใบที่ยอดน้อยสุดให้หมดเร็วๆ จะได้ทยอยปิดไปทีละใบครับ (คาดว่าดอกน่าจะเท่ากันคือ 20% แต่ถ้าดอกไม่เท่ากัน รีบปิดใบที่ดอกเบี้ยเยอะสุดก่อน
ความเห็นที่ 2 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : 1946446
แต่คุณจะต้องผ่อนนาน นานมาก 7-8 ปีก็ได้ หรืออาจจะตลอดไป
เพราะจะก่อหนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แนะนำให้ปิดบัตรเหลือใบเดียว แล้วใช้แค่ใบเดียวก็พอแล้ว
ค่าติดตามทวงหนี้ ตามบริษัทกำหนด 200-250 บาทต่อครั้ง
ความเห็นที่ 3 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : rispw
ความเห็นที่ 4 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : 2867157
ความเห็นที่ 5 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
ถ้าไม่มีเงินจริงๆก็จ่ายขั้นต่ำไปก่อนจนปลายปีได้โบนัสให้เอาไปโปะหนี้ให้หมดไม่เหลือแม้แต่เศษสตางค์
ความเห็นที่ 6 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : 3108414
เวลาธ.โทรมาทวง เขาก็จะคิดชาร์จค่าทวงต่อครั้งด้วย
ความเห็นที่ 7 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : JMU
มันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะครับ ถ้าคุณมีวินัยและไม่สร้างหนี้เพิ่มลองคำนวณแบบคิดหยาบๆ นะครับ ไม่ตรง 100% แต่เป็นแนวทางให้ดู
สมมติ มียอดคงค้าง 30000 บาท ดอกเบี้ย 20% มันคิดเป็นต่อปี ก็เท่ากับ 30000*20%/12 (คิดหยาบๆ นะครับ จริงๆ มันคิดเป็นวันเลย) = 500 บาท
รวมเป็นยอด 30500 ขั้นต่ำที่ต้องจ่าย 10% คือ 3050 (ผมจำวิธีคำนวณไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเขาเอาขั้นต่ำของยอดเต็ม + ดอกเบี้ย หรือวิธีนี้) เมื่อคุณจ่ายขั้นต่ำ 3050 บาท ยอดก็จะคงเหลือ 30000 +500 -3050 = 27450 สำหรับคำนวณดอกเบี้ยของเดือนถัดไป
ดอกเบี้ยเดือนถัดไป 27450*20%/12 = 457.5 รวมยอดเป็น 27450 + 457.5 =27907.5 ขั้นต่ำ 10% คือ 2790.75
ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้ครบ ถ้าคุณมีความสามารถในการจ่ายเท่ากับขั้นต่ำของเดือนแรก คือประมาณ 3000 บาท ก็จ่ายให้มันเกินขั้นต่ำของเดือนนี้ เงินต้นมันก็จะลดลงเร็วขึ้น หรือถ้ามีเงินอื่นมาโปะ ก็จะยิ่งลดลงไปอีก ประมาณ 1 ปีก็อาจจะหมดหนี้ แต่ถ้าคุณคิดแต่จะจ่ายเฉพาะขั้นต่ำของแต่ละเดือนไปเรื่อยๆ มันก็นะยืดไปเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ถึงกับขนาดว่า ดอกเบี้ยทบมาเรื่อยๆ จนมากกว่าเงินที่ผ่อนครับ เพียงแต่มันลดช้าลง เพราะคุณจ่ายในแต่ละเดือนน้อยลง
ความเห็นที่ 8 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : 2226719
จ่ายขั้นต่ำ คือ จ่ายดอกเบี้ยครบ บวก ต้นเงิน บางส่วน ประวัติไม่เสีย
ถ้าจ่าย ขั้นต่ำ น้อยกว่าดอกเบี้ย ก็จะตัดต้นเงินไม่ได้ ตัดดอกไม่หมด เกิดดอกค้างสะสม จนดอกตามทัน อย่างที่คุณเข้าใจข้อดีของการชำระขั้นต่ำ
- ฝั่งลูกหนี้ ผ่อนส่งสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ
- ฝั่งเจ้าหนี้ ธนาคารชอบ เพราะได้กินดอกยาวข้อเสีย
- คุณต้องรับภาระดอกเบี้ยมหาศาลที่จะตามมา
- ถ้า คุณชำระหนี้ก้อนนี้หมด ไปขอกู้ก้อนใหม่ เช่น ขอกู้ซื้อบ้าน ประวัติการชำระขั้นต่ำ ที่อยู่ในบูโร จะบอกถึงศักยภาพในการชำระหนี้ของคุณ
ธนาคารนำไปพิจารณาในการให้กู้ด้วย อาจจะไม่อนุมัติฉะนั้น ถ้ามีความคิดจะส่งชำระขั้นต่ำไปตลอด คุณคิดผิด
ช่วงที่ไม่ไหว ชำระขั้นต่ำไปก่อนได้ แต่เมื่อมีกำลัง ต้องรีบปิดให้เร็วที่สุด** จ่ายขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดครับ ยังตัดต้นเงินได้ประมาณ 8 %
ความเห็นที่ 9 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
ความเห็นที่ 10 : จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ดีหรือไม่ดี!?
สมาชิก Pantip : Gbe
ไม่ควรจ่ายขั้นต่ำเพราะว่าอยากเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นหรือแม้แต่จ่ายไม่เต็มจำนวนถ้าลองคิดดูแล้ว
การจ่ายขั้นต่ำถ้าจ่ายเท่าเดิมของงวดแรกแล้วไม่ได้ใช้บัตรเลยมันจะหมดใน 12 เดือนครับแต่ว่าขั้นต่ำมันคือ 10% ของยอดหนี้ ถ้าคุณจ่ายขั้นต่ำไปตลอดยอดมันจะเป็นแบบนี้ครับ
100->90->81->73->66->60->54->49->44->40->36->32->29 ...... เห็นไหมว่าผ่านไป 12 เดือนแล้วหนี้ก็ยังไม่หมดแล้วทุกเดือนมันก็มีดอกเบี้ย
แถมถ้าคุณใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เงินต้นมันยิ่งเพิ่มขึ้นกลับมาเพิ่มดอกอีก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกว่าจะรู้ตัวว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวก็สายไปเสียแล้วถ้าไม่มีการบันทึกรายจ่าย
สรุป : ความเห็นในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากสมาชิกชาว Pantip
ข้อดี : ในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากประสบการณ์ชาว Pantip
- เหมาะกับคนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือต้องการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายอย่างอื่น
- จ่ายน้อย ผ่อนสบายชิลๆ
- ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้น ถ้าหากไม่มีการใช้เงินต้นเพิ่มเติม
- ธนาคาร หรือผู้ให้บริการบัครเครดิตชอบ เพราะได้รับดอกเบี้ยระยะยาว
- ไม่เสียประวัติทางการเงินจากการเบี้ยวชำระหนี้บัตรเครดิต กับทางเครดิตบูโร
ข้อเสีย : ในการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจากประสบการณ์ชาว Pantip
- หากมีการใช้จ่ายเพิ่ม เงินต้นเพิ่ม ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- ต้องแบกรับจำนวนดอกเบี้ยมหาศาล
- สร้างเครดิตที่ไม่ดีนักกับเครดิตบูโรว่ามีศักยภาพในการจ่ายคืนน้อย ทำให้กู้สินเชื่อก้อนใหญ่ได้ยาก
- เมื่อธนาคารทำการโทรศัพท์ทวงถามให้ชำระค่าบัตรเครดิตจะทำการบวกชาร์จค่าบริการเพิ่มเติม
ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากชาว Pnatip
ควรทำการบันทึกรายจ่ายเพื่อป้องกันการเกิดหนี้บัตรเครดิตมากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าหากจำเป็นต้องผ่อนจ่ายขั้นต่ำเป็นเวลานานมาก การกู้เงินมาปิดหนี้ดอกเบี้ยจะถูกกว่า หรือรวบยอดให้เหลือหนี้ในบัตรเครดิตใบเดียวจะทำให้สามารถปิดหนี้ได้ง่ายกว่าเดิม
บทสรุปส่งท้าย : การจ่ายยอดขั้นต่ำบัตรเครดิต คือ สิ่งสุดท้ายที่คนไม่อยากเป็นหนี้ควรทำ!?
เชื่อว่าข้อมูลในตอนต้น + คำแนะนำของชาว Pantip ..
คงจะช่วยให้คุณผู้อ่านทราบกันแล้วว่า การจ่ายขันต่ำบัตรเครดิตมีการคิดอย่างไร และมีข้อดี - ข้อสีย อย่างไรกันบ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม การไม่สร้างภาระหนี้ให้กับตัวเองตั้งแต่แรก ย่อมดียิ่งกว่าลาภอันประเสริฐอย่างแน่นอน.
เมื่อได้รับทราบข้อเท็จจริงที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน.. เกี่ยวกับการใช้จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต น่าจะช่วยให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการวางแผนใช้บัตรเครดิตในการผ่อนชำระสินค้าได้อย่างเหมาะสม และปราศจากหนี้ได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เพราะไม่อย่างนั้นอาจเป็นการก่อหนี้ให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยไม่ทันรู้ตัวได้เช่นกัน เหมือนกับที่ชาว Pantip ได้พยายามยามแนะนำ จากบทความในตอนต้นนั่นเอง...