Contents
- 1 กำลังอยากรีไฟแนนซ์บ้านแต่กลัวปัญหาเครดิตบูโรอยู่หรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ
- 2 เครดิตบูโรคืออะไร ทำไมควรเช็คก่อนขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- 3 รู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองเสี่ยงติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? เช็คได้ที่ไหนบ้าง!?
- 4 หากติดเครดิตบูโร สามารถทำการรีไฟแนนซ์ได้หรือเปล่า!?
- 5 สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร!?
- 6 ข้อดีของการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- 7 ถ้าไม่ติดเครดิตบูโร ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี ได้ไหม!?
- 8 ขั้นตอนขอยื่นเรื่องขอทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรเรียบร้อยแล้วว่าไม่ติดปัญหา
- 9 บทสรุปส่งท้าย : ติดปัญหาเครดิตบูโรขอรีไฟแนนซ์บ้านได้หรือเปล่า!?
กำลังอยากรีไฟแนนซ์บ้านแต่กลัวปัญหาเครดิตบูโรอยู่หรือเปล่า!? บทความนี้มีคำตอบ
การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน... เป็นหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยกวนใจในแต่ละเดือนให้ลดน้อยลงมากกว่าเดิม แต่ก่อนที่จะทำการรีไฟแนนซ์บ้านหลายคนอาจเกิดปัญหากวนใจว่าถ้าหากติดปัญหาเครดิตบูโรจะสามารถขอรีไฟแนนซ์บ้านได้หรือเปล่า!? และควรแก้ไขปัญหานี้อย่างไรกันบ้าง!? ถ้าหากใครมีปัญหาเหล่านี้กวนใจ ลองทำตามคำแนะนำในบทความชิ้นนี้ รับรองว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอน...
![รวม [[รีวิว]] Pantip สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนโดนใจชาว Pantipที่สุดในปี 2564!?](https://gurucreditcard.com/wp-content/uploads/2020/09/happy-smiling-young-girl-room_144627-10414-150x150.jpg)
เครดิตบูโรคืออะไร ทำไมควรเช็คก่อนขอรีไฟแนนซ์บ้าน
เครดิตบูโร เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปของ “บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ที่ทำหน้าที่ในการจัดเก็บประวัติธุรกรรมด้านการเงินทั้งหมดของผู้ที่ทำการกู้ยืมสินเชื่อทุกประเภทของผู้ที่ทำการขอกู้ยืมสินเชื่อ เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด สินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อบ้าน เป็นต้น โดยสถาบันทางการเงินและธนาคารต่างๆจะทำการพึ่งพาฐานข้อมูลของเครดิตบูโร ในการตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้ขอกู้และนำไปพิจารณาว่าควรจะอนุมัติวงเงินกู้หรือไม่นั่นเอง!? ถ้าหากมีประวัติที่ดีก็จะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติมากขึ้นตามไปด้วย
รู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองเสี่ยงติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? เช็คได้ที่ไหนบ้าง!?
สำหรับคนที่สงสัยว่าตัวเองติดเครดิตบูโรหรือเปล่า!? และอยากทำการตรวจเช็คเครดิตบูโรของตัวเองก็สามารถทำได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 2
- อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ปากซอยสุขุมวิท 25
- สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
- ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 4
- อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
- CITI Advance สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เมกา บางนา
*ใช้เวลาในการตรวจเช็คเครดิตบูโรประมาณ 15 นาที โดยมีค่าดำเนินการ 100 บาท
หากติดเครดิตบูโร สามารถทำการรีไฟแนนซ์ได้หรือเปล่า!?
ถ้าหากใครทำการตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองแล้วพบว่าอยู่ในสถานะของบัญชีดำ สามารถที่จะทำการปลดสถานะให้กลับมาเป็นปกติ เพื่อช่วยให้สามารถทำการขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้ไม่ยาก ด้วยการพยายามผ่อนชำระหนี้สินทั้งหมดให้รวดเร็วที่สุด โดยเริ่มต้นจากการพักชำระหนี้ จากนั้นชำระหนี้ให้มากกว่าจำนวนการชำระขึ้นต่ำ เพื่อเร่งการปิดบัญชีหนี้ให้ไม่มียอดคงค้างเหลือในบัญชีให้รวดเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามเครดิตบูโรมักที่จะมีประวัติอยู่หบัวจากปิดหนี้เสร็จประมาณ 3 ปี ดังนั้น การขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ควรทำหลังช่วงเวลานั้นจะเป็นการปลอดภัยกว่า
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร!?
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การยื่นเรื่องกับสถาบันทางการเงินเพื่อรับสินเชื่อก้อนใหม่มาใช้ในการทดแทนสินเชื่อเดิม หรือการนำบ้านที่อยู่ในระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่ออยู่ไปใช้เป็นหลักประกัน เพื่อทำการขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง หากได้รับการอนุมัติผู้ขอกู้ก็จะได้รับเงินก้อนเพื่อนำไปใช้ในการปิดสินเชื่อเดิม เพื่อย้ายไปเป็นลูกหนี้กับสถาบันทางการเงินแห่งใหม่
ข้อดีของการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
ส่วนใหญ่แล้วการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นเพราะต้องการที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกลงมากกว่าเดิม ทำให้ไม่ต้องมีภาระในการจ่ายคืนรายเดือนให้กับสถาบันทางการเงินมาก ช่วยให้การลดต้นลดดอกเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ในบางครั้งอาจเป็นหนทางในการได้รับเงินก้อนในกรณีที่มีความจำเป็นฉุกเฉินอีกด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี เพราะไม่ต้องเสียค่าปรับให้กับทางธนาคาร
ถ้าไม่ติดเครดิตบูโร ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี ได้ไหม!?
สถาบันทางการเงินและธนาคารส่วนใหญ่มักจะมีข้อกำหนดเอาไว้ว่าจะทำการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านต้องรอให้ครบเวลากำหนด 3 ปี เสียก่อน ไม่เช่นนั้นต้องเสีย “ค่าปรับ” ให้กับสถาบันทางการเงิน ตามที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา แต่ในบางครั้งในสัญญาอาจจะกำหนดระยะเวลาในการรีไฟแนนซ์เอาไว้มากถึง 5-7 ปี เลยทีเดียว ดังนั้น ควรทำการตรวจสอบระยะเวลาในการรีไฟแนนซ์ให้ดีเสียก่อนว่าเป็น 3 ปี จริงๆ ไม่เช่นนั้น อาจจะกลายมาเป็นปัญหาหาคาราคาซังที่ชวนปวดหัวในอนาคตได้
ขั้นตอนขอยื่นเรื่องขอทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหลังจากตรวจสอบเครดิตบูโรเรียบร้อยแล้วว่าไม่ติดปัญหา
สำหรับคนที่ต้องการทำการสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ผ่านสถาบันทางการเงินใหม่ มีขั้นตอนแนะนำดังต่อไปนี้
1.ติดต่อขอเอกสารสรุปยอดหนี้เงินกู้กับสถาบันทางเงินเดิม (*อาจมีค่าใช้จ่าย)
2.นำเอกสารสรุปหนี้ไปยื่นเรื่องเพื่อขอทำการกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินใหม่ (*ใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกัน)
3.สถาบันทางการเงินส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักค้ำประกัน
4.เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ให้ติดต่อไปยังสถาบันทางการเงินเดิมเพื่อนทำการไถ่ถอนตามขั้นตอน และแจ้งยอดหนี้เงินต้นกับดอกเบี้ยให้กับสถาบันทางการเงินใหม่
5.ติดต่อสถาบันทางการเงินใหม่เพื่อนัดหมายทำการสัญญา+โอนหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ในการค้ำประกัน ในวันเดียวกับที่นัดหมายสถาบันทางการเงินเดิมเอาไว้
6.เริ่มขั้นตอนการโอน ณ สำนักงานที่ดินหรือสาขา ในกรณีที่ยอดกู้สูงมากกว่ายอดการไถ่ถอน สถาบันทางการเงินใหม่จะทำการออกเช็คให้2 ฉบับ เพื่อจ่ายหนี้กับธนาคารเก่าและมอบให้กับผู้ขอกู้ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมบริการต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการมอบโฉนดที่ดินที่ได้รับจากสำนักงานที่ดินให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่
บทสรุปส่งท้าย : ติดปัญหาเครดิตบูโรขอรีไฟแนนซ์บ้านได้หรือเปล่า!?
สำหรับคนที่ติดปัญหาเครดิตบูโร... จนเกิดความกังวลใจว่าจะขอทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้หรือเปล่า!? อยากให้กำลังใจสักนิดว่าทุกปัญหาย่อมต้องมีทางออก ขอเพียงแค่ขยันหมั่นแก้ประวัติเครดิตให้กลับมาดี ทำการชำระหนี้เก่าทั้งหมดและหนี้ใหม่เป็นประจำอย่างเหมาะสม เพียงเท่านี้ในเวลาเพียงไม่นาน รับรองว่าปัญหาเครดิตบูโรจะหายไป จนสามารถทำการขอรีไฟแนนซ์บ้านได้อย่างแน่นอน...
