Contents
- 1 การซื้อ-ขาย Cryptocurrency ในประเทศไทยนิยมทำผ่านแพลตฟอร์มตลาดไหนกันบ้าง!?
- 1.1 1.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Bitkub
- 1.2 2.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Satang Pro
- 1.3 3.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Huobi Thailand
- 1.4 4.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Z.com EX
- 1.5 5.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Zipmex
- 2 บทสรุปส่งท้าย : ตลาด Cryptocurrency ในประเทศไทยที่แนะนำไปแล้วในตอนต้นถูกต้องตามกฎหมาย หากอยากทำการซื้อ-ขายก็สามารถเริ่มทำได้ทันที!
การซื้อ-ขาย Cryptocurrency ในประเทศไทยนิยมทำผ่านแพลตฟอร์มตลาดไหนกันบ้าง!?
Cryptocurrency… หรือ “สกุลเงินดิจิทัล” เป็นหนึ่งในกระแสด้านการลงทุนที่คนรุ่นใหม่ต่างหใควสามใส่ใจกันอย่างมาก เพราะมีปัจจัยหลายประการที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน ซึ่งในประเทศไทยเองก็กระแสตลาดการลงทุน Cryptocurrency เองก็ถือว่าคึกคักเอาการเช่นกัน
บทความในวันนี้อยากขอพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับตลาดสำหรับการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน Cryptocurrency ในประเทศไทยที่มีความน่าสนใจ ที่สำคัญคือเป็นตลาดที่มีความถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย ส่วนจะมีตลาดไหนในประเทศไทยที่มีความน่าสนใจกันบ้างนั้น มาลองติดตามอ่านกันเลย...
1.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Bitkub
เปิดให้บริการ : 2561 / ทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท
ค่าธรรมเนียมในการเทรด : 0.25 %
บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ “Bitkub” เป็นตลาด Cryptocurrency ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ทำให้มีจำนวนของผู้ใช้บริการตลาดในการซื้อ-ขาย Cryptocurrency มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Bitkub ได้รับความนิยมอันเนื่องมาจากมีการให้บริการทางด้านการลงทุนที่เรียกได้ว่ามีความครอบคลุมมากที่สุด ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว มีความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีระบบการให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรองรับหลายสกุลเงินที่หลากหลายจากทั่วโลกอีกด้วย
2.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Satang Pro
เปิดให้บริการ : 2560
ค่าธรรมเนียมในการเทรด : 0.25 %
บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ “Satang Pro” ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency เจ้าแรกที่มีเจ้าของเป็นคนไทย แถมยังเป็นผู้ที่บุกเบิกวงการ Cryptocurrency ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2017 อีกด้วย
นอกจากนี้ทางระบบยังเน้นหนักอย่างมากในการรักษาความปลอดภัยในการเทรดให้กับนักลงทุน มีระบบที่ช่วยสนับสนุนการฝาก-ถอนเหรียญที่รวดเร็วที่สุดจาก Exchange อันดัน 1 ของโลก และยังมีเหรียญสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการคัดกรองแล้วว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนให้เลือกมากถึง 30 เหรียญ โดยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต
3.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Huobi Thailand
เปิดให้บริการ : -
ค่าธรรมเนียมในการเทรด : 0.25 %
บริษัท หั่วปี้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้ชื่อทางการค้า บริษัท หั่วปี้ โกลบอล จำกัด โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ “Huobi” โดยมีจุดเด่นคือระบบฝากถอนทันที แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดคือการมอบดอกเบี้ยเงินฝากเมื่อทำการฝากเงินบาทเป็นจำนวน 2% Exchange ระดับ Global รวมไปถึงระบบ VIP ที่จะได้รับการบริการพิเศษคล้าย ๆ กับของธนาคาร
4.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Z.com EX
เปิดให้บริการ : -
ค่าธรรมเนียมในการเทรด : ฟรี!
บริษัท จีเอ็มโอ-แซด.คอม คริปโทนอมิกซ์ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทในเครือของ GMO Internet Group กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและสถาบันทางการเงินระดับโลกที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น ที่น่าสนใจคือค่าธรรมเนียมในการเทรด “ฟรี!” นั่นเอง
5.ตลาดซื้อ-ขาย Cryptocurrency ที่น่าสนใจในประเทศไทย: Zipmex
เปิดให้บริการ : -
ค่าธรรมเนียมในการเทรด : ฟรี!
บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด หรือ “Zipmex” ทำหน้าที่เป็นตลาดในการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีการเก็บ “ค่าธรรมเนียม” ในการเทรด นอกจากนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มในการซื้อ-ขาย ทรัพย์สินดิจิทัลเจ้าใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจในเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างมาก ด้วยการการันตีความปลอดภัยด้วยการประกันภัยสินทรัพย์ชั้นนำ มีระบบซื้อ-ขาย ฝาก-ถอน ได้ในทันที ใช้งานง่ายดายและรองรับ Cryptocurrency หลากหลายประเภท
บทสรุปส่งท้าย : ตลาด Cryptocurrency ในประเทศไทยที่แนะนำไปแล้วในตอนต้นถูกต้องตามกฎหมาย หากอยากทำการซื้อ-ขายก็สามารถเริ่มทำได้ทันที!
ถึงแม้ว่าการลงทุนเกี่ยวกับ Cryptocurrency อาจเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจสูง แต่อย่าลืมว่าการลุงในตลาดของประเทศไทย หรือไม่ว่าจะเป็นของต่างประเทศก็ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงจากความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น ก่อนที่จะก้าวเข้ามาลงทุนในตลาด Cryptocurrency อย่าลืมทำการศึกษาให้ดีและรอบด้าน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการลงทุนให้น้อยลงที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้...