Contents
- 1 อยากทำการเทรดคริปโตต้องเริ่มต้นยังไง และมีขั้นตอนที่ควรรู้อะไรกันบ้าง รับรองว่าบทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน
- 1.1 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 1 สร้างบัญชีการซื้อ-ขาย
- 1.2 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 2 เติมเงินเข้าสู่บัญชี
- 1.3 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 3 เลือกคริปโตที่เหมาะกับการลงทุน
- 1.4 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 4 เลือกกลยุทธ์สำหรับการลงทุน
- 1.5 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 5 การใช้บอทช่วยประหยัดเวลาได้
- 1.6 เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 6 จัดเก็บเหรียญคริปโตให้ปลอดภัยเสมอ
- 2 ส่งท้ายก่อนจาก : เทรดคริปโตอย่างไรไม่ใช่เรื่อง แต่ที่ลำบากคือการอยู่ในตลาดอย่างยั่งยืน
อยากทำการเทรดคริปโตต้องเริ่มต้นยังไง และมีขั้นตอนที่ควรรู้อะไรกันบ้าง รับรองว่าบทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน
การซื้อ-ขายและเทรด เป็นพื้นฐานของการลงทุนทุกประเภท รวมไปถึงตลาดคริปโต (Cryptocurrency) เองก็ยังคงใช้หลักการนี้เช่นเดียวกัน สำหรับมือใหม่ที่กำลังอยากจะเข้ามาทำการเทรดคริปโตแล้วยังมีข้อสงสัยว่าต้องทำยังไง มีหลักการที่ควรรู้อะไรกันบ้าง ขอแนะนำว่าให้ลองอ่านบทความชิ้นนี้จนจบเชื่อว่าจะมีคำตอบที่น่าสนใจให้อย่างแน่นอน
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 1 สร้างบัญชีการซื้อ-ขาย
ก่อนที่จะทำการลงทุนกับคริปโต สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเลยก็คือการสร้างบัญชีสำหรับใช้ในการซื้อ-ขายและแลกเปลี่ยน โดยเลือกว่าจะทำการเปิดกับทาง Exchange หรือ โบรกเกอร์ เมื่อทำการเลือกได้แล้วก็จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายกับการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นทั่วไป ซึ่งบัญชีดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในการทำการซื้อ-ขาย ลงทุนกับคริปโต
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 2 เติมเงินเข้าสู่บัญชี
เมื่อทำการลงทะเบียนสร้างบัญชีและได้รับการยืนยันบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขึ้นตอนต่อไปคือการ “เชื่อมต่อบัญชีลงทุนเข้ากับบัญชีธนาคาร” ส่วนใหญ่แล้วมักที่จะเลือกชำระเงินด้วยการโอนเงินจากทางธนาคารเพื่อฝากเข้าไปในบัญชีซื้อ-ขายคริปโต
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 3 เลือกคริปโตที่เหมาะกับการลงทุน
ถ้าหากกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมกันมากที่สุดก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก Bitcoin กับ Ethereum ที่ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ของวงการคริปโตที่น่าลงทุน เพราะมีปัจจัยที่พอทำให้ช่วยในการคาดเดาสถานการณ์ทางด้านราคาได้ดีกว่าเหรียญที่มีขนาดเล็กกว่า
นอกจากนี้ ถ้าหากใครเป็นนักลงทุนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องของความเสี่ยงสักเท่าไหร่นัก ก็สามารถที่จะกระจายการลงทุนไปให้กับเหรียญหลาย ๆ สกุลได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งบางครั้งการกระจายไปยังเหรียญที่มีขนาดเล็กกว่าสองเหรียญหลักในข้างต้นเมื่อเวลาผ่านไปมูลค่าโดยรวมของพวกมันก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างน่าสนใจได้เช่นกัน
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 4 เลือกกลยุทธ์สำหรับการลงทุน
โดยพื้นฐานแล้วคริปโตก็มีความคล้ายคลึงกับหุ้น ทำให้คนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนหุ้นอยู่แล้วอาจนำมาปรับใช้ได้อย่างไม่ยากนัก เช่น การเลือกลงทุนกับเหรียญคริปโตที่มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แล้วมุ่งเน้นไปที่จิตวิทยากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังความเชื่อมั่นของตลาด ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้การเก็งกำไรเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 5 การใช้บอทช่วยประหยัดเวลาได้
ตลาดคริปโตมีการซื้อ-ขายและแลกเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าตลาดเปิดกัน 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทำให้นักลงทุนหลายคนต้องผลาญเวลาไปกับหน้าจอเพื่อเกาะกระแสความเคลื่อนไหวของตลาดที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
ปัญหานี้ สามารถที่จะทำการแก้ไขด้วยการใช้ “เทรดบอท” (Trade Boot) ที่เป็นซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายในการซื้อ-ขาย คริปโตที่นักลงทุนเป็นเจ้าของในระดับที่ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า สิ่งนี้สามารถช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทรดคริปโตยังไง? : ขั้นตอนที่ 6 จัดเก็บเหรียญคริปโตให้ปลอดภัยเสมอ
กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบคือ “ฮาร์ดแวร์” และ “ซอฟต์แวร์” ถ้าหากล่าวถึงความปลอดภัยที่สุด ระบบฮาร์ดแวร์น่าสนใจที่สุด เนื่องจากเป็นการเก็บคริปโตเอาไว้ในอุปกรณ์กายภาพที่ตัดขาดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้ปลอดภัยหายห่วงในประเด็นจากการเข้าถึงของเหล่าแฮกเกอร์ แต่ในขณะเดียวกันแบบซอฟต์แวร์ก็เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายและแลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าทั้งสองแบบนั้นต่างก็มีข้อดีเป็นของตัวเองทั้งสิ้น
ส่งท้ายก่อนจาก : เทรดคริปโตอย่างไรไม่ใช่เรื่อง แต่ที่ลำบากคือการอยู่ในตลาดอย่างยั่งยืน
อย่างที่ทราบกันดีว่าการลงทุนกับคริปโตเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมายที่ส่งผลกระทบต่อราคาของคริปโต การอยู่รอดในตลาดเป็นระยะเวลานานจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้และความเข้าใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว การหมั่นทำการศึกษาเรื่องที่ส่งกระทบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้นักลงทุนที่ก้าวเข้ามาในสามนี้สามารถอยู่รอดต่อไปยังไงให้ได้นานที่สุดนั่นเอง