Contents
- 1 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เรื่องเล็กๆที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนแสนยิ่งใหญ่ของคนอยากมีบ้าน
- 2 มาทำความรู้จักกันก่อนว่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คืออะไรกันแน่!?
- 3 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน แผนการสำหรับคนข้างหลังโดยเฉพาะ!
- 4 ใครบ้างที่ควรทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน!?
- 5 2 ประเภทที่ควรรู้ของ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
- 6 1.ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านประเภทที่ 1: แบบลดหลั่น
- 7 จุดเด่นที่น่าสนใจของประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่น
- 8 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่นสำคัญอย่างไร!?
- 9 2.ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านประเภทที่ 2: แบบคงที่
- 10 จุดเด่นที่น่าสนใจของประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบคงที่
- 11 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านต้องจ่ายเบี้ยประกันราคาเท่าไหร่!?
- 12 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
- 13 เคล็ดลับน่ารู้ในการเลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
- 14 ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ขอกู้ซื้อบ้านได้ไหม!?
- 15 ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านผูกติดกับสัญญาสินเชื่อหรือเปล่า!?
- 16 อยากรีไฟแนนซ์บ้าน ติดปัญหาประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านควรทำอย่างไรดี!?
- 17 1.เทคนิคเวนคืนประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านกับธนาคารเก่า
- 18 2.เทคนิคเปลี่ยนชื่อของผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านของธนาคารใหม่
- 19 บทสรุปส่งท้าย : ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านสำคัญแค่ไหน!? หวังว่าจะช่วยให้ได้รับคำตอบ
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เรื่องเล็กๆที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนแสนยิ่งใหญ่ของคนอยากมีบ้าน
เชื่อว่าทุกคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง... สำหรับใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหลังจากที่เหนื่อยล้าอ่อนแรงในตอนกลางคืนและใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่ตัวเองรัก อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีบ้านสักหลังก็ดูเหมือนว่าจำเป็นที่จะต้องฝ่าฟันบททดสอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตามหาโครงการบ้านที่ถูกใจ ทำเรื่องเพื่อขอกู้ซื้อบ้านและแม้กระทั่งต้องตัดสินใจว่าควรทำ “ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน” หรือเปล่า!? ถ้าหากภายในใจของใครเต็มไปด้วยความสงสัยเหล่านี้ รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะมีคำตอบที่น่าสนใจ ช่วยคลายความสงสัยให้ได้กันอย่างแน่นอน...
มาทำความรู้จักกันก่อนว่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คืออะไรกันแน่!?
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) คือ ประกันภัย ที่เน้นในด้านของการคุ้มครองเป็นหลัก ทำให้ไม่มีการจ่ายเงินคืนให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อครบกำหนดสัญญาเหมือนกับประกันชีวิตทั่วไป โดยมีข้อคือ เบี้ยกรมธรรม์ที่ถูกเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดกล่าวได้ว่าถูกที่สุดเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับประชีวิตในรูปแบบอื่น อาทิเช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประชีวิตตลอดชีพและประกันชีวิตบำนาญ เป็นต้น
ถ้าหากล่าวถึงข้อดีที่น่าสนใจมากที่สุดของประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เนื่องมาจากการกู้เงินซื้อบ้านเป็นการทำสัญญาขอกู้ก้อนใหญ่ แต่หลังจากที่ทำการผ่อนชำระสินเชื่อเงินกู้ไปหลายปีแล้วปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เช่น ผู้กู้เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงานได้ หรือเสียชีวิต เป็นต้น นำไปสู่การเกิดปัญหาภาระหนี้จากการผ่อนบ้านก่อนโต ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าจะสามารถช่วยให้มีเงินไปชำระหนี้สินเชื่อบ้านได้ โดยที่ไม่ต้องตกเป็นภาระของครอบครัว
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน แผนการสำหรับคนข้างหลังโดยเฉพาะ!
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เป็นแผนประกันภัยที่เหมาะอย่างมากสำหรับทำเพื่อ “คนที่รัก” ในกรณีที่ผู้ทำประกันภัยเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทำให้คนที่รัก ที่ยังเหลืออยู่เบื้องหลังไม่ต้องวุ่นวายในการหาทางชำระหนี้ที่ยังคงค้างอยู่ในภายหลังนั่นเอง
ใครบ้างที่ควรทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน!?
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ทำการชำระค่างวดของบ้าน หรือคนที่เป็นผู้หารายได้หลักให้กับครอบครัว ซึ่งในบางกรณีอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ที่ทำการขอกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านก็ได้ นอกจากนี้ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านยังเหมาะกับ “คนโสด” ที่ยังไม่มีครอบครัว ที่เกรงว่าตัวเองจะไม่สามารถรับภาระหนี้ได้ในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าหนี้สินของตัวเองจะไม่ไปกระทบกับบ้านในอนาคต
2 ประเภทที่ควรรู้ของ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
1.ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านประเภทที่ 1: แบบลดหลั่น
- ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คุ้มครองแบบลดหลั่น (ตามยอดหนี้ที่เหลือ)
- ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คุ้มครองแบบคงที่
จุดเด่นที่น่าสนใจของประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่น
- จำนวนเงินเอาประกัน 2 ล้านบาท
- ระยะเวลาคุ้มครอง 30 ปี
- ชำระค่าดอกเบี้ยครั้งเดียว
- ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตเท่ากับจำนวนเงินกู้ที่ลดลง
- กรณีเสียชีวิต หลังจากการชำระหนี้ธนาคารแล้ว ส่วนต่างคืนให้กับผู้รับผลประโยชน์ลำดับถัดไป ตามที่ระบุในกรมธรรม์
- ระยะเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป นำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่นสำคัญอย่างไร!?
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่น มีความแตกต่างจากประกันทั่วไปคือ ทุนในการประกันที่ลดน้อยลงทุกปี และความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงเมื่อหมดอายุสัญญาเงินกู้ ดังนั้น ถ้าหากใครต้องการที่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุดก็ควรทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อให้ครอบคลุมตลอดระยะเวลาในการผ่อนบ้าน เพื่อให้สบายใจในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ณ เวลาที่ยังคงทำการผ่อนบ้านอยู่นั่นเอง
2.ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านประเภทที่ 2: แบบคงที่
จุดเด่นที่น่าสนใจของประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบคงที่
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิตเท่ากับเงินเอาประกันภัย
- ระยะเวลาในการคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป นำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านต้องจ่ายเบี้ยประกันราคาเท่าไหร่!?
โดยทั่วไป เบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 4-6% ของทุนประกัน แต่ค่าเบี้ยประกันอาจขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และระยะเวลาในการกู้สินเชื่อ ที่ยิ่งทำการกู้ในระยะยาวมากเท่าไหร่ อัตราของดอกเบี้ยก็จะสูงมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านทั้งสองประเภท ที่ได้ทำการกล่าวถึงกันไปแล้วในข้างต้น สามารถที่จะนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง โดยมียอดสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
เคล็ดลับน่ารู้ในการเลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
เนื่องจากประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน มีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภท อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่าควรที่จะทำการเลือกประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบไหน ถึงจะดี มีความเหมาะสมกับตัวเอง ขอแนะให้ทำการเลือกประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน โดยอ้างอิงจากค่าเบี้ยประกันที่ต้องชำระ หากชำระเบี้ยประกันจำนวนมากไม่ไหวให้เลือกแบบลดหลั่น แต่ถ้าหากต้องการความคุ้มครองในระยะยาวก็ควรเลือกแบบคุ้มครองคงที่ 30 ปี
ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ขอกู้ซื้อบ้านได้ไหม!?
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เป็นแผนประกันที่ผู้ทำการขอกู้ซื้อบ้านเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำชับเอาไว้อย่างเป็นทางการว่า ให้สิทธิของผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้อย่างอิสระ “ห้ามธนาคารบังคับขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยควบคู่กับผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อ”
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านผูกติดกับสัญญาสินเชื่อหรือเปล่า!?
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ไม่ได้เป็นสัญญาที่ผูกติดกับบัญชีสินเชื่อ ทำให้ผู้ที่ต้องการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านสามารถซื้อประกันกับ “สถาบันทางการเงินอื่น” ถ้าหากได้รับการประเมินแล้วว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าสถาบันทางการเงินที่ทำการกู้เงินเพื่อขอซื้อบ้าน เป็นสิทธิ์ที่ผู้กู้สามารถทำได้และสถาบันทางการเงินที่ให้ทำการกู้ซื้อบ้านก็ยังคงได้รับผลประโยชน์จากการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
อยากรีไฟแนนซ์บ้าน ติดปัญหาประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านควรทำอย่างไรดี!?
สำหรับคนที่ต้องการที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน แต่กลับติดปัญหาประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิมอยู่นั้นก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะสามารถทำการแก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.เทคนิคเวนคืนประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านกับธนาคารเก่า
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการเวนคืนประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านกับธนาคารเก่า จากนั้นค่อยย้ายไปทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านกับธนาคารใหม่ที่ต้องการรีไฟแนนซ์ อย่างไรก็ตามการทำเช่นนี้จะทำให้ได้ไม่ได้รับเงินคืนแบบเต็มจำนวน
2.เทคนิคเปลี่ยนชื่อของผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านของธนาคารใหม่
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านจะมอบความคุ้มครองสินเชื่อให้กับผู้รับผลประโยชน์เป็นธนาคารที่กำลังผ่อนชำระหนี้อยู่ ณ ปัจจุบัน ดังนั้น หากทำการรีไฟแนนซ์บ้านกับทางธนาคารใหม่ สามารถทำการขอเปลี่ยนชื่อของผู้รับประโยชน์คนใหม่ได้นั่นเอง
บทสรุปส่งท้าย : ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านสำคัญแค่ไหน!? หวังว่าจะช่วยให้ได้รับคำตอบ
จากข้อมูลในข้างต้น... จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าที่จริงแล้วประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว เพียงแต่มีหนักงานสินเชื่อของสถาบันทางการเงินหลายแห่งที่ฉวยโอกาสในการบังคับขายประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านให้กับผู้ที่มาเรื่องขอกู้สินเชื่อซื้อบ้าน จนกลายเป็นเรื่องชวนให้ลำบากใจ แต่อย่างที่ได้แนะนำกันไปแล้วว่าไม่มีข้อกำหนดใดว่าหากไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านแล้วจไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ดังนั้น ขอให้สบายใจกันได้เลย...