Contents
- 1 รู้จักประกัน OPD และ IPD สุดสำคัญกันเถอะ
- 2 OPD หรือ Out Patient Department คืออะไร?
- 3 แล้วประกันสุขภาพแบบ OPD คืออะไร? ครอบคลุมอะไรบ้าง?
- 4 IPD หรือ IN Patient Department คืออะไร?
- 5 แล้วประกันสุขภาพแบบ IPD คืออะไร? ครอบคลุมอะไรบ้าง?
- 6 ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ต่างกันอย่างไร?
- 7 ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ OPD และ IPD เมื่อต้องการทำประกัน?
- 8 บทส่งท้ายกับผู้เขียน : ควรรู้ไว้! OPD และ IPD คืออะไร ต่างกันและสำคัญอย่างไร
รู้จักประกัน OPD และ IPD สุดสำคัญกันเถอะ
ในยุคที่มีการประกันภัยรองรับความเสี่ยงแบบนี้ เราควรจะทำความรู้จักกับประกันต่างๆ เอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำประกันหรือศึกษาเงื่อนไขก่อนทำประกันค่ะ และในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับประกัน OPD และ IPD ที่มาแรงและสำคัญมากในการทำประกันค่ะ
OPD หรือ Out Patient Department คืออะไร?
OPD หรือ Out Patient Department คือผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผู้ป่วย OPD มักมาหาหมอเพื่อตรวจอาการหรือสุขภาพแล้วกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่มักเป็นการเข้ารับการรักษาด้านสุขภาพที่ไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหรือรอดูอาการในระยะยาว เช่น ปวดหัว เป็นหวัด เป็นต้น
แล้วประกันสุขภาพแบบ OPD คืออะไร? ครอบคลุมอะไรบ้าง?
ประกันสุขภาพแบบ OPD คือประกันที่จะครอบคลุมดูแลค่ารักษาที่เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย(รวมถึงอาการเจ็บป่วยของโรคที่จำต้องอยู่ดูอาการไม่เกิน 6 ชั่วโมง เช่น การให้คีโมที่ต้องอยู่ดูอาการแทรกซ้อน เป็นต้น) ค่าปรึกษาแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลและค่ายา โดยอาจดูแลเป็นครั้งหรือไม่เกินจำนวนครั้งที่กำหนดขึ้นอยู่กับกรมธรรม์
ถ้าประกันสุขภาพแบบ OPD เป็นแบบเหมาจ่ายค่ารักษาทั้งปีจะคุ้มมาก เพราะมักไม่กำหนดจำนวนครั้งที่เข้ารักษา ไม่กำหนดวงเงินที่ใช้ได้ต่อครั้งหรือไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม ทำให้เหมาะกับผู้ที่มักเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ อย่างป่วยด้วยอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เป็นต้น
IPD หรือ IN Patient Department คืออะไร?
IPD หรือ IN Patient Department คือผู้ป่วยใน หรือผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งมักเป็นอาการของโรคที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงต้องได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากแพทย์ค่ะ
แล้วประกันสุขภาพแบบ IPD คืออะไร? ครอบคลุมอะไรบ้าง?
ประกันสุขภาพแบบ IPD คือประกันที่จะครอบคลุมดูแลค่ารักษาต่างๆ เช่น ค่าใช้ห้องผ่าตัด ค่าเอกซเรย์ ค่าตรวจทางชีวเคมี ค่าเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ค่าธรรมเนียมการผ่าตัด รวมไปถึงค่าชดเชยจากการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และส่วนใหญ่แล้วประกัน IPD มักทำให้แก่เด็กเล็กและผู้สูงอายุเพราะมีโอกาสเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า
ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ต่างกันอย่างไร?
จากคำอธิบายข้างต้นก็จะเห็นได้ว่าการประกันสุขภาพ OPD กับ IPD จะมีความแตกต่างกันในส่วนของการดูแลรักษาที่ครอบคลุมแตกต่างกัน คือ การประกันสุขภาพ IPD จะครอบคลุมดูแลผู้ป่วยในที่ต้องพักรักษาในโรงพยาบาลตามความเห็นของแพทย์ แต่ประกันสุขภาพ OPD จะครอบคลุมดูแลผู้ป่วยนอกที่มีอาการเจ็บป่วยทั่วไปหรือเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไปตามความเห็นของแพทย์ค่ะ
ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ OPD และ IPD เมื่อต้องการทำประกัน?
การทำประกันสุขภาพควรให้ความสำคัญกับความเหมาะสมระหว่างตัวกรมธรรม์กับตัวผู้เอาประกันเองว่าครอบคลุมความต้องการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประกันสุขภาพ OPD และ IPD ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ต้องการทำประกันควรให้ความสนใจ เพราะประกันสุขภาพนั้นมีทั้งแบบให้ความคุ้มครองเฉพาะ IPD นั่นหมายความว่าถ้าหากผู้เอาประกันเจ็บป่วยเล็กน้อยก็จะไม่สามารถใช้ประกันในส่วนนี้ได้ (คือผู้เอาประกันต้องออกเงินค่ารักษาพยาบาลเองและไม่สามารถเคลมกับทางประกันได้)
ซึ่งหากตัวผู้เอาประกันมีแนวโน้มที่จะเข้ารักษาด้วยอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเช่น หวัดตามฤดูกาล บาดเจ็บจากการหกล้ม อย่างในเด็กวัยซน ก็ควรมองไปถึงประกันสุขภาพแบบ OPD แต่หากเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยที่หนักขึ้น บวกกับต้องการการคุ้มครองแบบ OPD ด้วย ก็มีประกันสุขภาพที่คุ้มครองทั้งแบบ OPD และ IPD เช่นกันซึ่งจะครอบคลุมทั้งหมด ตอบสนองความต้องการได้ครอบคลุมมากขึ้นค่ะ
จากผู้เขียน
บทส่งท้ายกับผู้เขียน : ควรรู้ไว้! OPD และ IPD คืออะไร ต่างกันและสำคัญอย่างไร
OPD และ IPD เป็นศัพท์ที่ควรรู้เอาไว้เมื่อต้องข้องเกี่ยวกับการรักษาทางการแพทย์รวมถึงการทำประกันค่ะ จะเรียกว่าเป็นความรู้พื้นฐานที่ควรศึกษาก็ได้เพื่อการศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ในขั้นต่อไป เช่น การเปรียบเทียบเงื่อนไขหรือผลประโยชน์ที่จะได้รับจากกรมธรรม์แต่ละกรมธรรม์ ทำให้อาจต้องเปรียบเทียบ OPD และ IPD ว่ากรมธรรม์ใดคุ้มครองเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง เป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้เมื่อรู้แล้วว่า OPD และ IPD คืออะไรจะได้สามารถเลือกประกันได้เหมาะสมกับตัวผู้เอาประกันเองเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตนเองด้วยค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ