Contents
ระบบเงินดิจิตอลมีข้อดี-ข้อเสียอะไรกันบ้าง!? บทความนี้มีคำตอบ
ในยุคปัจจุบัน... ระบบเงินดิจิตอลได้ก้าวเข้ามามีบทบาททั้งในชีวิตประจำวันและการลงทุนที่มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น เพื่อให้รู้เท่าทันเทคโนโลยีทางด้านการเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ยอมหยุดยั้ง การทำความรู้จักกับระบบเงินดิจิตอลเอาไว้เสียก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งประเด็นในเรื่องของข้อดี-ข้อเสียของระบบก็จะช่วยให้เข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรจะเข้าไปมีเอี่ยวกับเงินดิจิตอลดีหรือเปล่า!?
ถ้าหากใครกำลังค้นหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับระบบเงินดิจิตอลอยู่ รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะได้รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้มาฝากกันอย่างแน่นอน...
ระบบเงินดิจิตอล คืออะไร!?
เงินดิจิตอล หรือสกุลเงินดิจิตอล คือ วิธีการชำระเงินในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ เนื่องจากเงินดิจิตอลไม่สามารถที่จะจับต้องได้ในทางกายภาพเหมือนกับธนบัตรหรือเหรียญ ทำให้จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการถ่ายโอนผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
ข้อดีที่น่าสนใจของระบบเงินดิจิตอล
ในส่วนของข้อดี ระบบเงินดิจิตอลมีถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลดความซับซ้อนในการทำธุรกรรมทางการเงินของหน่วยงานให้น้อยลง รวดเร็วมากขึ้นและใช้ต้นทุนน้อยลง โดยสามารถทำการสรุปข้อดีของเงินดิจิตอลได้ดังต่อไปนี้
- ระบบเงินดิจิตอลช่วยให้ไม่ต้องลงทุนกับห้องนิรภัยในธนาคารเพื่อทำการจัดเก็บเงินสดเป็นจำนวนมาก
- ระบบเงินดิจิตอลช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการกับบัญชีและยังมีการเก็บบันทึกทุกการทำธุรกรรมเอาไว้ผ่านเทคโนโลยี Blockchain
- ระบบเงินดิจิตอลช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการโอนเงินไปยังต่างประเทศให้ประหยัดขึ้น รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยการตัดคนกลางอย่างสถาบันการเงินทิ้งไป
- ระบบเงินดิจิตอลช่วยทำให้คนที่ถูกกีดกันจากคนกลาง เช่น คนที่ไม่บัญชีธนาคาร สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงแค่ใช้งานอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
- ในกรณีของสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) การทำธุรกรรมสามารถรอดพ้นจากการตรวจสอบของรัฐบาลหรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ เพราะไม่สามารถติดตามการทำธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อ-ขายที่ถูกปกปิดตัวตนได้
ข้อเสียของระบบเงินดิจิตอล
สำหรับจุดด้อยของระบบเงินดิจิตอลที่ควรทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจใช้งานหรือทำการลงทุนมีดังต่อไปนี้
- ระบบเงินดิจิตอลเป็นเป้าหมายหลักของพวก Hacker เหมือนกับเหตุการณ์ SWIFT ในปี 2018 ที่ Hacker สามารถนำเงินออกจากธนาคารรัสเซียไปได้มากถึง 6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
- ระบบเงินดิจิตอลในกรณีของสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) แทบจะเป็นไปไม่ได้ได้เลยที่จะทำการติดตามผู้ใช้งานทำให้อาจมีการนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ในเชิงอาชญากรรม
- ระบบเงินดิจิตอลมีต้นทุนที่ต้องจ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมในการใช้กระเป๋าเงินดิจิตอล ระบบที่ใช้ Blockchain ต้องชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมรวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลเพื่อมอบให้เป็นของตอบแทนให้กับนักขุด เป็นต้น
- ระบบเงินดิจิตอลยังคงเป็นเรื่องใหม่ที่สร้างความท้าทายให้กับหน่วยงานที่ต้องเข้ามากำกับดูแล ทั้งในเชิงนโยบายและการแก้ปัญหาต่าง ๆ
มารู้จักกับ 3 ประเภทของระบบเงินดิจิตอลกันเถอะ!
โดยพื้นฐานแล้วระบบเงินดิจิตอลสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1.ระบบเงินดิจิตอล : สกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลาง (CBDC)
เป็นสกุลเงินที่ได้รับการออกโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศซึ่งแยกออกจากเงินกระดาษ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเครดิตของธนาคารกลาง โดยแบ่งออกเป็นคือ CBDC สำหรับร้านค้าปลีกที่ออกแบบมาสำหรับการทำธุรกรรมรายวันและ CBDC สำหรับการค้าส่งที่ใช้สำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการระหว่างธนาคารกับสถาบันทางเงิน เป็นต้น
2.ระบบเงินดิจิตอล : สกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency)
เป็นระบบเงินดิจิตอลที่ได้รับการออกแบบมาโดยการเข้ารหัสผ่านเครือข่าย Blockchain เพื่อเพิ่มระดับของความปลอดภัยในการทำธุรกรรมที่ยากต่อการ Hack นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา กระแสของสกุลเงินดิจิตอลก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมาก
3.ระบบเงินดิจิตอล : Stablecoins
Stablecoins ถือว่าเป็น Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดความผันผวนของสกุลเงิน Cryptocurrency ที่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่สุด โดยใช้หลักการเชื่อมโยงราคาของสกุลเงินเข้ากับสกุลเงินจริงและยังสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนสำหรับสกุลเงิน Fiat แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นทางการ แต่ในปี 2564 มีการเปิดตัว Stablecoins ที่ใช้งานได้และมีการพัฒนามากกว่า 200 เหรียญ เลยทีเดียว
บทสรุปส่งท้าย : เงินดิจิตอลเป็นระบบที่น่านำมาใช้งานหรือลงทุนหรือเปล่า!?
ถึงแม้ว่าระบบเงินดิจิตอลจะยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่เสถียรทำให้มีทั้งข้อดี-ข้อเสียมากมายปนกันไป แถมยังเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับนำมาใช้งานกันในวงกว้าง แต่เมื่อมองจากกระแสตอบรับจากรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในโลกแล้ว เชื่อว่าในวันหนึ่งระบบเงินดิจิตอลอาจได้รับการพัฒนาจนกระทั่งได้รับคุณค่าเทียบไหล่กับค่าเงินในโลกแห่งความเป็นจริงได้เช่นกัน...