Contents
- 1 อยากสมัครกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเก็บบิทคอยน์ มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง?
- 2 กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่เหมาะสำหรับการเก็บบิทคอยน์คืออะไร
- 3 กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับสมัครเก็บบิทคอยน์มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
- 4 ส่งท้ายก่อนจาก : กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับการเก็บบิทคอยน์ แบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
อยากสมัครกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเก็บบิทคอยน์ มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง?
เมื่อกล่าวถึง “บิทคอยน์” (Bitcoin) เชื่อว่าหลายคนก็คงจะมองเฉพาะในเรื่องของภาพรวมทางด้านการลงทุนเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วในการลงทุนกับบิทคอยน์มีอีกประเด็นที่สำคัญอย่างมาก แต่มักที่จะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายนั่นก็คือการสมัคร “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่ใช้สำหรับการเก็บบิทคอยน์นั่นเอง
ถ้าหากใครกำลังมองหากระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อสมัครนำมาใช้กับบิทคอยน์แล้วไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไรกันดี รับรองว่าบทความชิ้นนี้จะนำเสนอประเภทของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับสมัครเพื่อเก็บรักษาบิทคอยน์เอาไว้ที่น่าสนใจมาฝากกันอย่างแน่นอน
กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่เหมาะสำหรับการเก็บบิทคอยน์คืออะไร
กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) หรือ e-wllet คือระบบของซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลของการทำธุรกรรมและรหัสผ่านของผู้ใช้สำหรับวิธีการชำระเงิน และเว็บไซต์จำนวนมาก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการจัดการกับธุรกรรมของตัวเองได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วผ่านอินเทอร์เน็ตหรือแบบตัวต่อตัว ซึ่งสามารถสร้างความรัดกุมปลอดภัยได้มากขึ้นกว่าเดิม
กระเป๋าเงินดิจิทัลยังช่วยทำให้หลายประเทศในโลกที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับระบบการเงินของโลกได้อย่างเต็มที่ด้วยการชำระเงินให้กับบริการที่ได้รับ สามารถทำการรับหรือโอนเงินจากผู้อื่นไปยังประเทศอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากกระเป๋าเงินดิจิทัลไม่จำเป็นที่จะต้องมีบัญชีธนาคารทำให้ความสามารถในการเข้าถึงทางการเงินมีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับสมัครเก็บบิทคอยน์มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
เพื่อให้คนที่กำลังมองหาว่าควรสมัครบิทคอยน์กระเป๋าดิจิทัลที่น่าสนใจนั้นมีอะไรกันบ้าง ลองมาเปรียบเทียบดูจุดเด่นและจุดด้อยของกระเป๋าเงินดิจิทัลแต่ละประเภทกันดีกว่าว่ามีประเด็นอะไรที่ควรทราบกันบ้าง
1.กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะกับการสมัครเก็บบิทคอยน์ : แบบพกพา
| จุดเด่น | จุดด้อย |
| -พกพาได้อย่างสะดวก
-เหมาะกับการทำธุรกรรมแบบตัวต่อตัว -ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้รหัส QR เพื่อช่วยให้ทำการทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและราบรื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม |
-การอัปเดตในอนาคตทำได้ยาก
-หากอุปกรณ์เกิดความเสียหายหรือสูญหาย ทำให้เกิดการสูญเสียเหรียญดิจิทัลที่เก็บเอาไว้ภายในได้ -หากต้องการทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต |
2.กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะกับการสมัครเก็บบิทคอยน์ : แบบตั้งโต๊ะ
| จุดเด่น | จุดด้อย |
| -เหมาะกับคนที่มีความต้องการควบคุมเงินดิจิทัลของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
-กระเป๋าเงินดิจิทัลบางรุ่น ให้การสนับสนุนกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ หรือสามารถจะทำงานเป็นโหนดแบบเต็มตัวได้ |
-ยากในการทำธุรกรรมโดยการใช้ QR
-พกพาไม่สะดวก -อาจถูกโจรกรรม Spyware หรือ Virus |
3.กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะกับการสมัครเก็บบิทคอยน์ : แบบฮาร์ดแวร์
| จุดเด่น | จุดด้อย |
| -เหมาะกับการเก็บเหรียญดิจิทัลเป็นจำนวนมาก
-เป็นหนึ่งในวิธีการเก็บเหรียญดิจิทัลที่ปลอดภัยมากที่สุด |
-ใช้งานยาก เพราะไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย
-ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ QR -หากอุปกรณ์เกิดการชำรุดเสียหาย โดยที่ไม่มีการสำรองข้อมูลอย่างเหมาะสม อาจทำให้ต้องสูญเสียเงินทั้งหมด |
4.กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะกับการสมัครเก็บบิทคอยน์ : แบบคลาวน์
| จุดเด่น | จุดด้อย |
| -ใช้งานง่าย เพราะเป็นการเก็บเหรียญเอาไว้บนเซอร์เวอร์ออนไลน์ ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาอุปกรณ์สำหรับเก็บเหรียญ
-ทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากทุกสถานที่ทุกเวลา |
-ไม่เหมาะกับการเก็บเหรียญดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ควรเก็บไว้เฉพาะเหรียญที่ต้องการทำธุรกรรม ณ ช่วงเวลานั้น
-หากระบบคลาวน์ถูก Hack อาจทำให้ต้องสูญเสียเหรียญทั้งหมด |
ส่งท้ายก่อนจาก : กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสำหรับการเก็บบิทคอยน์ แบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
กระเป๋าเงินดิจิทัลแต่ละแบบล้วนแล้วแต่มีจุดเด่น ประโยชน์และจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป การเลือกสมัครจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามที่จะทำการสำรวจตัวเองให้ดีด้วยเช่นกันว่ารูปแบบในการนำมาใช้งานนั้น แบบไหนกันที่มีความเหมาะสมกับตัวเองกันมากที่สุด เพื่อที่จะได้สามารถสมัครใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
