Contents
อยากสร้างผลงานขายบน NFT คนไทยชอบใช้บริการแพลตฟอร์มไหนกันบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
NFT หรือ Non-fungible token เป็นหนึ่งในแนวทางการทำธุรกิจแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัล ถ้าให้กล่าวแบบสรุป NFT คือผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ที่เจ้าของผลงานได้ทำการขายกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้กับผู้ซื้อที่ให้ความสนใจ ซึ่งกรรมสิทธิ์ดังกล่าวสามารถที่จะตรวจสอบความเป็นเจ้าของได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สิ่งเหล่านี้เองที่ยิ่งทำให้ NFT ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และในหมู่ศิลปินและผู้สร้างสรรค์ผลงานชาวไทยเองก็เริ่มมีการนำผลงานของตัวเองกันมากขึ้น
บทความในวันนี้ อยากขอพาไปทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มเครือข่าย NFT ที่ผู้สร้างผลงานชาวไทยนิยมใช้กันว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง เผื่อว่าจะได้ตามไปขายสร้างรายได้ตามคนไทยคนอื่นกัน
1.แพลตฟอร์มขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในไทย : OpenSea
OpenSea เป็นตลาดกลางในการซื้อขาย NFT ที่มีมูลค่ามากถึง 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงแค่ในช่วงต้นปี 2022 เท่านั้น ทำให้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่การเติบโตในโลกของ NFT มากที่สุด มีผู้ใช้งานจำนวนมากจากระบบที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ในการแสดงรายการ การเรียกดูรายการและการเสนอ Token โดยที่ไม่ต้องโต้ตอบกับบล็อกเชนโดยตรง
2.แพลตฟอร์มขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในไทย : Foundation
Foundation เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการจำหน่าย Crypto-Arts ที่ใช้ระบบของ Ethereum บล็อกเชนเก็บรักษาผลงานของผู้ซื้อขายทั้งหมดเอาไว้ ถ้าหากใครต้องการที่จะเข้ามาร่วมขาย NFT กับ Foundation จำเป็นที่จะต้องได้รับ “คำเชิญให้เข้าร่วม” เพื่อสร้างโปรไฟล์ศิลปิน หากผลงานถูกซื้อไปแล้วมีการถูกนำไปขายต่อเจ้าของผลงานก็จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 10% ทำให้ผู้ขายมีโอกาสมากขึ้นในการสร้างรายได้ให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เหตุผลนี้เองที่ทำให้ Foundation กลายมาเป็นตลาด NFT ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับผู้ขายผลงาน
3.แพลตฟอร์มขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในไทย : SuperRare
SuperRare เป็นตลาดกลางที่ทำการรวบรวมและแลกเปลี่ยนผลงานศิลปะดิจิทัลประเภทเดียวกันที่ไม่เหมือนใคร โดยผลงานทั้งหมดแต่ละชิ้นได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยศิลปินที่เป็นสมาชิกของเครือข่าย โดยมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม 3 % สำหรับการซื้อทั้งหมด โดยที่ผู้ซื้อผลงาน NFT เป็นผู้ชำระ ส่วนในการขายจะมีค่าคอมมิชชั่นของระบบ 15 % (ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับ 85%) เมื่อมีการขายผลงาน NFT ต่อ ผู้สร้างผลงานก็จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 10%
สำหรับ SuperRare จะมีการเปิดใช้บริการแบบเต็มรูปแบบในปี 2023 ในระหว่างนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองระบบรุ่นเบต้า แต่ก็มีผลงานศิลปะ NFT กว่า 4,000 รายการ ที่วางให้เลือกสะสมอยู่ในเครือข่ายของ SuperRare
4.แพลตฟอร์มขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในไทย : Nifty Gateway
Nifty Gateway ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2018 เป็นตลาด NFT ดิจิทัลที่ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อผลงานศิลปะที่ไม่เหมือนใคร โดยผลงานศิลปะในเครือข่าย Nifty Gateway ได้รับการรับรองว่ามีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้นและสามารถตรวจสอบย้อนหลังความเป็นเจ้าของได้โดย Ethereum บล็อกเชน ส่วนของสะสมดิจิทัลเหล่านี้มักถูกเรียกว่า “Nifities” ที่มาจากการเล่นคำกับคำว่า “NFT” นั่นเอง
5.แพลตฟอร์มขาย NFT ที่ได้รับความนิยมในไทย : VIV3
เป็นแพลตฟอร์ม NFT ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยมีความเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของผลงานทางกายภาพให้กลายเป็นไฟล์ดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุดในโลก ทำให้มีการสร้าง Floe ที่เป็นแพลตฟอร์มการทำสัญญาอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพที่จำเป็นโดยไม่กระทบต่อการกระจายอำนาจของเครือข่ายบล็อกเชน
VIV3 ยังเปิดโอกาสให้ศิลปิน สตูดิโอ เกมและแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้ามาร่วมใช้งานเพื่อสร้าง Token ที่ไม่เหมือนใคร ผลงานแต่ละชิ้นแสดงให้เห็นพลังในการสร้างสรรค์ผลงาน และเปิดให้ผู้ที่ต้องการสะสมเข้ามาซื้อของสะสมที่ตัวเองต้องการได้อย่างง่ายดาย
ส่งท้ายก่อนจาก : เลือกแพลตฟอร์มขาย NFT ตามชาวไทยให้เหมาะกับรูปแบบผลงานของตัวเอง
แพลตฟอร์มซื้อและขาย NFT ที่ได้มีรับการแนะนำกันไปแล้วในข้างต้น ล้วนแล้วแต่มีผู้สร้างสรรค์ผลงานชาวไทยใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มเองก็มีรูปแบบในการนำเสนอผลงานเฉพาะกลุ่มแบบเกือบจะเจาะจง ถ้าหากต้องการขายก็อย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนว่าคนไทยขายอะไรบนเครือข่ายบ้างและผู้ซื้อต้องการผลงานแบบใด เพื่อที่จะได้นำผลงานไปขายได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง