Contents
มาทำความรู้จักกับเงินเฟียต และสกุลเงินดิจิทัล สองยักษ์ใหญ่ที่ห้ำหั่นกันอยู่ในปัจจุบัน
ในสมัยก่อนหากกล่าวถึงวิธีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ เชื่อว่าทุกคนก็คงจะคิดถึง “เงินเฟียต” ที่มีลักษณะเป็นธนบัตรหรือเหรียญที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ แต่ในปัจจุบัน แนวคิดดังกล่าวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เมื่อมีการก้าวเข้ามาท้าทายโดย “สกุลเงินดิจิทัล” ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจมากขึ้นเป็นอย่างมาก
เพื่อให้คุณผู้อ่านได้ทราบว่าเงินเฟียต กับสกุลเงินดิจิทัลมีความแตกต่างกันอย่างไร ลองมาติดตามข้อมูลที่น่าสนใจจากบทความชิ้นนี้กัน เชื่อว่าอาจจะมีคำตอบที่หลายคนกำลังพยายามตามหาอย่างแน่นอน
เงินเฟียต คืออะไร
เงินเฟียต (Fiat) คือ คำที่ใช้เรียกอย่างกว้าง ๆ ที่มีความหมายถึง “เงินทุกประเภท” ที่ถูกออกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยกฤษฎีกาหรือคำสั่งของรัฐบาล อย่างไรก็ตามคำว่าเงินเฟียตถูกสงวนเอาไว้สำหรับการเรียกเฉพาะ “เงินกระดาษและเงินเหรียญ” ที่สามารถนำมาใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยไม่เกินมูลค่าที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ สำหรับมูลค่าของเงินเฟียตแตกต่างจากวัตถุมีค่าที่สามารถทำการจับต้องได้ อาทิเช่น ทองคำและเงิน เป็นต้น
ทำไมเงินเฟียตถึงมีค่า
ความน่าเชื่อถือของเงินเฟียตจะขึ้นอยู่กับ “รัฐบาลที่ทำการสั่งพิมพ์ออกมา” สิ่งที่น่าสนใจที่สร้างมูลค่าให้กับเงินเฟียตก็คือ รัฐบาลทุกประเทศกำหนดให้ประชาชนทำการจ่ายภาษีให้กับรัฐเป็นเงินเฟียตที่รัฐทำการสั่งพิมพ์ออกมา เมื่อทุกคนจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษที่รุนแรงหรือบางกรณีอาจถึงขึ้นที่ต้องติดคุก ทำให้ผู้คนยอมรับการแลกเปลี่ยนระหว่างกันด้วยเงินเฟียตอย่างง่ายดายมากขึ้น
ข้อดีของเงินเฟียต
เงินเฟียต มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายประการ ทำให้เงินเฟียตสามารถถูกนำมาใช้งานในฐานะของสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสิ่งของและบริการมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์ของมนุษย์นานหลายพันปี สำหรับประโยชน์ของเงินเฟียตมีดังต่อไปนี้
- เงินเฟียต มีความมั่นคงของมูลค่า เพราะได้รับการรับรองจากรัฐบาล
- เงินเฟียต มีน้ำหนักที่ไม่มาก แตกต่างจากการใช้โลหะเช่น ทองคำ ทองแดง ที่นิยมใช้กันในอดีต
- เงินเฟียต ช่วยให้ธนาคารสามารถควบคุมปริมาณเงิน อัตราดอกเบี้ยและสภาพคล่องได้มากขึ้น
- เงินเฟียต มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ข้อเสียของเงินเฟียต
ถึงแม้ว่าเงินเฟียต จะมีข้อดีที่น่าสนใจกันอย่างมากมาย แต่ในขณะเดียวกันเงินเฟียตเองก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยสามารถทำการสรุปได้ดังต่อไปนี้
-
- เงินเฟียต ถึงแม้จะช่วยให้ธนาคารควบคุมปริมาณของเงินได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันวิกฤตทางการเงินไม่ให้เกิดขึ้น
- เงินเฟียต เป็นอุปทานที่ไม่จำกัดทำให้สามารถพิมพ์เพิ่มได้ แตกต่างจากทองคำที่มีอุปทานจำกัดที่มีเสถียรภาพทางด้านการเงินที่มากกว่า
- เงินเฟียต อาจทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อได้ หากรัฐบาลการพิมพ์ออกมามากจนเกินไป จนอาจนำไปสู่การเกิดสภาวะของเงินเฟ้ออย่างรุนแรงได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาฟองสบู่แตก
- เงินเฟียต ถ้าหากผู้คนหมดศรัทธาในสกุลเงินของประเทศ เงินก็จะไร้ค่าในทันที
- เงินเฟียต บางครั้งกลายมาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนเพื่อพยายามปกป้องเศรษฐกิจของประเทศว่ายังอยู่ในระดับที่ดีอยู่
สกุลเงินดิจิทัล ทางเลือกใหม่ที่แตกต่างจากเงินเฟียต
ถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ในการนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยน หรือใช้ซื้อสิ่งของสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ทองคำมักจะมีลักษณะเป็นสินทรัพย์เพื่อใช้ในการเก็งกำไร หรือสิ่งมีค่าสำหรับการสะสมเสียมากกว่า ทำให้เกิด “สกุลเงินดิจิทัล” ขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอันเป็นการท้าทายต่อธรรมชาติของเงินเฟียตที่อาตทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าสกุลเงินดิจิทัล ก็ยังไม่อยู่ในฐานะที่ใกล้เคียงกับการเป็น “เงิน” ตามความหมายดั้งเดิมของมัน
ส่งท้ายก่อนจาก : เงินเฟียต กับสกุลเงินดิจิทัลใช้อะไรดีกว่ากัน
ถ้าพูดกันแบบอิงข้อเท็จจริง ไม่ได้ให้ความเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัลก็ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่าง ๆ สิ่งที่แตกต่างมีเพียงแค่การที่เงินเฟียตได้รับการยอมรับจากรัฐบาลของแต่ละประเทศ ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลเองก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ทำให้อาจจำเป็นที่จะต้องศึกษากันไปอีกยาว ๆ ว่าทั้งสองสกุลเงินนี้แบบใดกันแน่ที่จะกลายมาเป็นผู้อยู่รอดสำหรับใช้เป็นมาตรฐานในการใช้จ่ายในอนาคตได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดกันแน่