โทเคน (Token) คืออะไร!? พร้อมแนะนำ [4 ประเภท] ที่น่าสนใจไม่ควรพลาด!

แนะนำโทเคน (Token) คืออะไร!? ทำไมถึงมีบทบาทสำคัญในเรื่องของการลงทุน!?

สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ ดูเหมือนว่านอกจากเรื่องอสังหาริมทรัพย์และหุ้นแล้ว ยังมีประเด็กเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมาเกี่ยวข้องที่ควรทำการศึกษาให้เข้าใจ เพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับสนามการลงทุนใหม่ที่มีมูลค่าการหมุนเวียนภายในนั้นจากทั่วโลกนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

หนึ่งในเรื่องที่อยากแนะนำให้รู้จักไม่ควรพลาดก็คือ “โทเคน” (Token) ที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ได้เจาะลึกในรายละเอียดว่าโทเคน (Token) คืออะไร!? สามารถทำอะไรได้บ้าง!? และน่าลงทุนหรือเปล่า!? ถ้าหากใครกำลังมีคำถามนี้อยู่ในใจ ขอแนะนำว่าลองอ่านบทความชิ้นนี้ให้จบรับรองจะมั่นใจได้เลยว่าจะได้รู้เกี่ยวกับโทเคน (Token) อย่างเจาะลึกแน่นอนว่ามันคืออะไรกันแน่!?

Non Fungible Tokens (NFT) คืออะไร!? ร่วมทุกเรื่องชวนน่าสนใจใน [ปี 2022]

2022.2.1

เจาะลึก Non Fungible Tokens (NFT) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรทำไมถึงได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ คลิก! คิดตามอ่านรายละเอียดกันเลย.....

โทเคน (Token) คืออะไร!?

  โทเคน (Token) คือ หน่วยข้อมูลในรูปแบบของดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อใช้แสดง “สิทธิ์ในการร่วมลงทุนหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ผู้สร้างโทเคนได้สัญญาเอาไว้” เนื่องจากโทเคน (Token) มีลักษณะเป็นดิจิทัลทำให้ไม่สามารถจับต้องได้ แต่จะถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างปลอดภัยในรูปแบบการเข้ารหัสในระบบที่ถูกเรียกว่า Blockchain ที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายสามารถช่วยกันตรวจสอบสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโทเคน (Token) ร่วมกันได้ทำให้เกิดการปลอมแปลงได้ยากมาก

โทเคน (Token) มีกี่ประเภท คืออะไรกันบ้าง!?

โดยพื้นฐานแล้วโทเคน (Token) สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ Utility Token, Payment Token, Non-Fungible Token และ Security Token ซึ่งมีการนำมาใช้งานที่ค่อนข้างแตกต่างกันดังต่อไปนี้

1.Utility Token คือโทเคน (Token) สำหรับแลกสินค้าและบริการ

Utility Token คือเหรียญโทเคน (Token) สำหรับเอาไว้ใช้เพื่อทำการแลกเปลี่ยนกับบริการ หรือนำมาใช้งานกับระบบที่ทางผู้พัฒนาที่ทางผู้พัฒนาระบบได้กำหนดเอาไว้เสมือนกับเงินจริง แต่จะไม่ได้ถือว่าเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใด ๆ

2.Security Token คือโทเคน (Token) สำหรับหลักทรัพย์หรือหุ้น

Security Token คือเหรียญโทเคน (Token) ที่มีลักษณะเสมือนกับหุ้นหรือหลักทรัพย์ที่ได้รับการกำกับดูแลและอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากทางรัฐ (ก.ล.ต.) โดย Security Token ยังสามารถถูกแบ่งย่อยออกได้อีก 4 แบบ คือ

• Equity Token ที่ใช้สำหรับการแทนความเป็นเจ้าของบริษัท
• Debt Token ที่ใช้สำหรับแทนหนี้หรือคำสัญญา ตามที่ได้ตกลงเอาไว้กับผู้พัฒนา
• Hybrid Token ที่ใช้สำหรับแทนความเป็นเจ้าของบริษัทหรือเจ้าหนี้
• Asset Based Token ที่ใช้สำหรับแทนทรัพย์สิน อาทิเช่น อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

3.Payment Token คือโทเคน (Token) สำหรับการชำระเงิน

Payment Token เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่แล้วมักจะเรียกว่า “เหรียญ” เช่น Bitcoin, Ethereum, Tether เป็นต้น อย่างไรก็ตามโทเคนประเภทนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่อาจเพิ่มขึ้น-ลดลง ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด แตกต่างจากโทเคนสองแบบแรกที่ถูกนำมาใช้ในเครือข่ายของตัวเองทำให้มูลค่ามีความคงตัว

4.Non-Fungible Token (NFT) สำหรับทรัพย์สินดิจิทัลเฉพาะ

Non-Fungible Token (NFT) คือสินทรัพย์ดิจิทัลเฉพาะหรือโทเคนแบบเข้ารหัสลับ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินเฉพาะที่มีอยู่ในโลกของความเป็นจริง เช่น การครอบครองเป็นเจ้าของวิดีโอ คลิปเสียง งานศิลปะ เป็นต้น ผ่านระบบ Blockchain เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัล ที่สามารถช่วยให้พิสูจน์การรับรองสิทธิ์การเป็นเจ้าของ เอกลักษณ์และความถูกต้องได้

[รวมความเห็นชาว Pantip] ซื้อบิทคอยน์เก็บเอาไว้เก็งกำไรดีหรือเปล่า!? #ข้อมูลปี 2022

2022.1.31

อยากลงทุน-เก็งกำไรกับบิทคอยน์เป็นการตัดสินใจที่ดีหรือเปล่า!? รวมทุกเรื่องน่ารู้แนะนำโดยชาว Pantip! ติดตามกันเลย......

ข้อดีของโทเคน (Token) คืออะไรกันบ้าง!?

สำหรับการนำโทเคน (Token) มาใช้งานนั้นมีข้อดีหลายประการ โดยสามารถทำการสรุปออกเป็นข้อ ๆ ได้คือดังต่อไปนี้

• ข้อดีของโทเคน (Token) คือ มีความปลอดภัยที่สูงมาก
• ข้อดีของโทเคน (Token) คือ ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ หรือส่วนลดในการใช้บริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มของผู้ออก ICO

[7 สกุลเงินดิจิตอล] ที่ทั้งหมดได้รับอนุญาตให้ซื้อ-ขาย ถูกกฎหมายในประเทศไทย [*ข้อมูล 2022]

2022.2.1

เงินดิจิตอลมีทั้งหมดกว่า 8,000 สกุล อันไหนบ้างที่ ก.ล.ต. อนุญาตให้ซื้อขายได้ในประเทศไทย!? รับรองบทความนี้มีทุกสิ่งที่ควรรู้อย่างแน่นอน......

บทสรุปส่งท้าย : โทเคน (Token) เป็นการลงทุนที่ดีแต่ก็มีความเสี่ยงควรศึกษาให้ดีเสียก่อน!

จากข้อมูลในข้างต้นที่ได้แนะนำกันไปแล้วเชื่อว่า ณ ตอนนี้ หลายคนก็คงจะสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับโทเคน (Token) ได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นว่ามันคืออะไรกันแน่!? แล้วจะสามารถนำมาใช้งานรวมไปถึงโอกาสในการลงทุนกับมัน

อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงและโทเคน (Token) เองก็เช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมทำการศึกษาประเด็นความเสี่ยงให้รอบด้านก่อนว่ามันคืออะไรกันบ้าง!? เพื่อที่จะได้เป็นการช่วยลดโอกาสความเสี่ยงที่ต้องเผชิญหน้าให้น้อยลงนั่นเอง